รมว.ยุติธรรม รับไม่ได้ปม “คุก VIP” เอื้อประโยชน์นักโทษจีนเทา ลั่นนี่คือการเหยียบย่ำกระบวนการยุติธรรมที่เลวร้ายมาก ยอมรับมีนางแบบสาวสวยเข้าไปด้านในเรือนจำ เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบเข้มพรุ่งนี้ 22 พ.ย. 68


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 พ.ย. 68 ที่กระทรวงยุติธรรม พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงประเด็นที่ปลัดกระทรวงยุติธรรมมีคำสั่งย้ายผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จากกรณีพบการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ต้องขังชาวจีนเทา ว่า เรื่องนี้เหตุเกิดตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย. ผ่านมาแล้ว 5 วัน และในช่วงบ่ายวันนี้ ตนได้นัดหมายปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มาพูดคุยติดตามความคืบหน้า เพราะมันก็ล่วงเลยมา 5 วันแล้ว

ตนได้ทำหนังสือคำสั่งแจ้งให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 28 พ.ย. นี้ เพราะพูดตรง ๆ เลยตนมองว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ นี่คือการเหยียบย่ำกระบวนการยุติธรรม ไม่ควรเกิดขึ้น

อีกทั้งในวันที่ 22 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. ตนจะพาคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อไปดูรายละเอียดข้อเท็จจริง แต่เชื่อว่าพยานหลักฐานต่าง ๆ เราก็เห็นกันอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญ เราจะตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้น เพราะเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก ทำให้กระบวนการยุติธรรมเสื่อมเสียมาก ถึงตรงนี้หากจะกล่าวว่าในวันนี้ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงแค่ไหน เพราะถ้าหากพบความเกี่ยวข้องก็ต้องไปดูเส้นทางการเงิน ว่ามีการรับสินทรัพย์ใดหรือไม่นั้น ตนขอให้รายละเอียดเหล่านี้เป็นช่วงการคุยกันช่วงบ่ายวันนี้แทน เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้เวลาทำงานก่อน แต่ตรงนี้คงต้องขอบคุณอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพราะได้รายงานให้ตนทราบล่วงหน้าแล้วว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น และก็ได้มีการส่งสายไป จนเกิดการปฏิบัติการตรวจค้นจู่โจม ซึ่งก็ถือว่าการปฏิบัติก็พบว่าข้อมูลค่อนข้างตรง ในส่วนนี้ทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ก็จะได้เร่งดำเนินการแก้ไข แม้จะแก้ไขไปบางส่วนแล้ว แต่ก็อยากฟังในส่วนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่าดำเนินการไปมากน้อยแค่ไหน

...

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายมานพ ชมชื่น ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพิ่งมาปฏิบัติหน้าที่แทน นายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำฯ คนเก่าที่เกษียณอายุราชการไป ระยะเวลาเพียงเล็กน้อยที่นายมานพ มาเข้ารับตำแหน่ง เหตุใดจึงย่ามใจจนเกิดเหตุการณ์ขึ้น หรือมีการละเว้น ละเลย เพิกเฉย หรือไม่นั้น พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า เรื่องนี้คงตอบไม่ได้ แต่ขอดูจากพยานหลักฐานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน

ถามต่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีการใช้ห้องใต้บันไดของเรือนจำฯ และพบถุงยางอนามัยใช้แล้ว ได้รับรายงานอย่างไรหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า ตนก็ได้รับรายงานลักษณะนี้ แต่ว่าตนขอดูรายละเอียดอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน หากหลังจากนี้มีอะไรเพิ่มเติม เราก็จะเร่งรัดทุกอย่างโดยเร่งด่วน ส่วนว่าจะเป็นเรื่องจริงเลยหรือไม่ ตนยังไม่ทราบ เพราะเป็นเพียงการรายงานขึ้นมาด้วยวาจา แต่ตนเชื่อว่าเวลา 5 วัน คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคงทำอะไรได้มากแล้ว เพราะปลัด ยธ. ก็กำชับลงไปแล้ว

ส่วนในกรณีกลุ่มผู้ต้องขังจีนเทาคือคนกลุ่มประเภทคดีใดนั้น ตนยังไม่ทราบรายละเอียด ทราบเพียงว่าเป็นกลุ่มจีนเทา และการคุมขังอะไรต่าง ๆ ก็พยายามปรับให้ดีที่สุด โดยในวันที่ 22 พ.ย. จะได้เข้าไปดูรายละเอียดจริง ๆ เลย

อย่างไรก็ตาม หากผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีการกระทำความผิดจริง จะมีแนวโน้มขยับไปสู่กระบวนการสอบสวนวินัยร้ายแรง ให้พักราชการ ออกจากราชการไว้ก่อน หรือส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตามมาตรา 157 เลยหรือไม่นั้น ตนก็ขอให้เอาแบบเต็มที่ที่สุด เพราะอย่างที่ตนกล่าวไป มันเป็นเรื่องที่เรารับไม่ได้จริง ๆ ตนรับราชการมาจนเกษียณอายุมาขนาดนี้แล้ว จนมาอยู่จุดนี้ก็เพิ่งเคยเห็นแบบนี้ ก็จะร่วมกันแก้ไข ใครทำผิดก็ว่าไปตามผิด เพราะตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนก็รับไม่ได้กับเรื่องนี้

ส่วนกรณีที่ว่ามีนางแบบสาวสวยเข้าไปด้านในเรือนจำ ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงตามที่มีการรายงาน ซึ่งทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้มีการรายงานให้ตนทราบก่อนถึงวันเปิดปฏิบัติการจู่โจม และในวันปฏิบัติการก็มีการวางแผนอย่างรอบคอบและนำชุดเจ้าหน้าที่จากที่อื่นมาเสริมด้วย ยอมรับว่าที่ผ่านมา สังคมมักพูดว่าเรือนจำคล้ายเป็นแดนสนธยา จากนี้ก็คงต้องดูครบทุกระบบ เพราะเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ตนก็ไปที่ จ.เชียงใหม่ ไปดูระบบของทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ไปพูดคุยกับเรือนจำกลางเชียงใหม่ ตนก็มองว่ามันแล้วแต่พื้นที่ด้วย เพราะถ้าบริเวณดังกล่าวนี้เขาจะบล็อกสัญญาณโทรศัพท์มือถือเลย ก็คงต้องนำมาปรับและพูดคุยกัน ตนไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดซ้ำอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายมานพ ชมชื่น เคยเป็น ผบ.เรือนจำที่อื่นมาก่อน ดังนั้นจะมีการตรวจสอบย้อนหลังหรือไม่ว่าเคยมีเหตุลักษณะเช่นนี้มาก่อนหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า คงต้องดำเนินการให้มากที่สุด ส่วนว่าเคยทำมาหลายครั้งก่อนหน้านี้หรือไม่ ตนไม่ทราบจริง ๆ จึงขอดูรายละเอียดจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดีกว่า ส่วนพฤติกรรมส่วนตัวของ ผบ.เรือนจำฯ ตนก็ไม่ทราบข้อมูลเช่นเดียวกัน ส่วนกรณีจะขอรับการสนับสนุนจากดีเอสไอ ตำรวจ หรือ ปปง. เพื่อเข้ามาดูข้อมูลเชิงลึกหรือไม่ ตนเชื่อว่าต้องมีหลายหน่วยงานเข้าร่วมแน่นอน เราจะไม่ปล่อยผ่าน ต้องดูกันทั้งระบบ ส่วนการเข้าตรวจค้นจู่โจมเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ วันนี้เพิ่มเติม ตนก็ขอดูรายงานในช่วงบ่ายก่อน ให้ความมั่นใจเลยว่าไม่ปล่อยผ่านแน่นอน ส่วนจะพาสื่อมวลชนเข้าไปดูพื้นที่ในเรือนจำฯ ได้หรือไม่ ตนขอไปตรวจสอบเรื่องระเบียบว่าทำได้หรือไม่

...

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ช่วงเช้ามืดวันที่ 21 พ.ย. นายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ นำกำลังเข้าจู่โจมตรวจค้นที่แดน 8 เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นแดนที่มีผู้ต้องขังมากที่สุดของเรือนจำฯ โดยมีผู้ต้องขังมากกว่า 900 คน

นายยุทธนา กล่าวก่อนเข้าตรวจค้นว่า ได้รับคำสั่งให้เป็นรักษาการผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร วันนี้ จึงเร่งเข้าตรวจสอบภายในเรือนจำ ซึ่งแดน 8 มีโรงงานช่างไม้เก่าที่เป็นพื้นที่ฝึกอาชีพ แต่กลับถูกปิดร้าง ใช้เป็นที่พักให้นักโทษ กลุ่มจีนเทา ไปอยู่รวมกัน จึงอาจมีการซุกซ่อน สิ่งของต้องห้าม

นอกจากนี้ มีแดนสูทกรรม พื้นที่ประกอบอาหารที่มีนักโทษไทยร้องเรียนด้วยว่า ได้รับอาหารไม่เพียงพอ แตกต่างจากนักโทษกลุ่มจีนเทา ส่วนกรณีการเข้าตรวจค้น วันที่ 16 พ.ย. ไม่พบถุงยางอนามัย แต่ยอมรับว่าพบกล่องถุงยางผู้หญิงกับนักโทษจีนเทา และของต้องห้าม เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า แอร์เคลื่อนที่ ไฟแช็คจำนวนมาก ขณะนี้ กรมราชทัณฑ์ได้ตั้งนายไพฑูรย์ มงคลหัตถี ผู้ตรวจราชการ กรมราชทัณฑ์ เป็นหัวหน้าคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะรีบสอบปากคำนายมานพ ชมชื่น อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่ที่ถูกย้ายอีก 14 คน รวมเป็น 15 คน.