เปิดพิกัดพื้นที่สีแดง “เมืองตะโบงคมุม” ฐานที่ตั้งแก๊งสแกมเมอร์อันตรายที่ยังไม่เคยปรากฏบนพื้นที่สื่อ เผยมีบริษัทรับจ้างทำลายศพเหยื่อแรงงาน ชี้เป้า “เจ๊โรส” หญิงไทยตัวการใหญ่ร่วมขบวนการบอสจีน คนสั่งซ้อมทารุณเหยื่อแรงงานไทย ทำยอดไม่ได้ตามเป้า บิ๊กก้อง ยอมรับข้อมูลที่ได้ค่อนข้างมีมูลความจริง สอดคล้องกับข้อมูลเชิงสืบสวนที่เจ้าหน้าที่มีอยู่
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายเบิร์ด ตัวแทนศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน (IMF) กล่าวภายหลังพาเหยื่อแรงงานแก๊งสแกมเมอร์ที่ถูกซ้อมทำร้ายร่างกายฝั่งประเทศกัมพูชาเข้าให้ข้อมูลตำรวจ ว่า การเข้าพบ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในวันนี้เราได้ให้ข้อมูลเชิงลึก รวมถึงพยานหลักฐาน เบาะแสต่างๆทั้งหมดไปหมดแล้ว ซึ่งท่านก็รับปากว่าจะดำเนินการให้อย่างเต็มที่ และจะทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ส่วนผู้เสียหาย หรือ เหยื่อถูกหลอกไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์ ที่ตนพาในวันนี้มีด้วยกัน 5 คน ถูกคุมขังอยู่ในพื้นที่เมืองตะโบงคมุม ห่างจากพื้นที่รอยต่อประเทศเวียดนาม ประมาณ 4 กิโลเมตร โดยทั้ง 5 คน ที่พามาล้วนเคยถูกคุมขังทำร้ายร่างกายด้วยการทุบตี และ ใช้กระบองไฟฟ้าช็อต เช่นเดียวกับเหยื่อในพื้นที่อื่นๆ หากทำยอดไม่ได้ตามเป้า โดยมี “เจ๊โรส” หญิงสาวชาวไทย อายุประมาณ 30 กว่าปี ลูกน้องคนสนิทบอสจีนเป็นคนควบคุมสั่งการ อย่างไรก็ตามสำหรับพิกัดฐานแก๊งสแกมเมอร์เมืองตะโบงคมุม ถือเป็นพิกัดเดียว ที่มีคนตาย แต่เรื่องไม่เคยถึงไทย จากข้อมูลที่เราได้รับจากสายลับแจ้งว่า พื้นที่ดังกล่าวมีบริษัทรับกำจัดศพเหยื่อแรงงานสแกมเมอร์โดยเฉพาะ โดยการกำจัดศพจะใช้วิธีนำไปเผาทำลาย ซึ่ง 1 ศพจะได้รับค่าจ้างคิดเป็นเงินประมาณหมื่นดอลลาร์”
นายเบิร์ด กล่าวว่า ในส่วนข้อมูลของเจ๊โรส หญิงชาวไทย ที่อยู่ร่วมขบวนการแก๊งสแกมเมอร์ ทราบว่า เดิมทีเจ้าตัวเคยทำงานให้กับเว็บพนันออนไลน์ ก่อนผันตัวมาเป็นเอเย่นต์ หรือ HR คอยจัดหาเหยื่อแรงงานคนส่งแก๊งสแกมเมอร์ต่างๆ ในพื้นที่เมืองตะโบงคมุม ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในฝั่งกัมพูชา นานๆ จึงจะแอบกลับเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ ส่วนระดับขั้นของขบวนการจะอยู่ในระดับคนคุม คอยดูแลดำเนินการต่างๆแทนบอสชาวจีน และเจ๊โรสคนนี้ยังเป็นคนที่คอยสั่งให้แก๊งชายฉกรรจ์ รุมทำร้ายหรือซ้อมทรมาน เหยื่อแรงงานคนไทย ที่ทำยอดไม่ถึงเป้า ซึ่งข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเจ๊โรส เราได้มอบให้กับเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า น้องโตโต้ ผู้เสียชีวิตรายล่าสุด เคยมีหมายจับติดตัวหรือไม่ นายเบิร์ด ตอบว่า ในส่วนนี้เราไม่ทราบข้อมูลจริงๆ เพราะเราไม่ได้สนใจว่าเขาจะมีคดีอะไรติดตัวหรือไม่ หรือ ไปทำอะไรอยู่ที่กัมพูชา เราแค่ต้องการช่วยนำร่างเขากลับมาให้ครอบครัวในฐานะคนไทยด้วยกันเพียงเท่านั้น พร้อมยอมรับว่า การที่เหยื่อแรงงานที่ถูกหลอกไปทำงานสแกมเมอร์ส่วนใหญ่มักมีหมายจับติดตัว เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พวกเขาไม่ค่อยกล้าติดต่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
“อยากให้สังคมเข้าใจว่า เหยื่อแรงงานสแกมเมอร์บางราย ไม่ได้มีเจตนาจะทำผิด เพียงแต่ถูกหลอกพาไป แล้วถูกบังคับให้เปิดบัญชีม้า หรือถูกขายต่อเป็นทอดๆ พอมีหมายจับเขาเลยคิดว่าคงกลับประเทศไทยไม่ได้แล้ว เพราะกฎหมายไม่สามารถช่วยเขาได้ บางคนยอมตายแต่ไม่ขอกลับมา ส่วนบางรายที่เลือกผันตัวไปเป็นมิจฉาชีพ หรือ อยู่ร่วมขบวนการ พวกนี้เลือกที่จะไม่กลับไทยอยู่แล้ว เพราะอยู่ที่นั่นเขามีกินมีใช้ คนพวกนี้เราจำเป็นต้องรีบนำตัวกลับมาดำเนินคดีให้ได้ และการที่พาเหยื่อมาเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ก็เพื่อต้องการตัดต้นตอขบวนการ ตามจับกุมพวกเอเย่นต์ พวกคนล่อลวงพาคนไทยไปทำงานสแกมเมอร์ ซึ่งข้อมูลพวกนี้เรามอบให้ตำรวจไปแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้”
ขณะที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า จากการพูดคุยกับตัวแทนศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน (IMF) และเหยื่อหรือผู้เสียหาย ที่ถูกหลอกไปทำงานสแกมเมอร์ฝั่งกัมพูชา ในวันนี้ถือเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก ซึ่งข้อมูลที่ได้รับค่อนข้างมีมูลความจริง และสอดคล้องกับข้อมูลเชิงสืบสวนที่เจ้าหน้าที่มีอยู่ ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วขึ้น
...