“สันธนะ” ไม่กังวล หากถูกส่งเข้าเรือนจำ บอกดีจะได้เข้าไปคุยกับพี่ใหญ่ ลั่น “เดี๋ยวจะเป็นเจ้าพ่อ” เผยหากพ้นภาระเรื่องนี้ พร้อมลงสมัครพรรคการเมือง เพื่อแฉข้อมูลลับ ยันไม่รู้จักคนไต้หวัน เรียกค่าไถ่ 100 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ภายหลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล สอบปากคำพร้อมแจ้งข้อหาเพิ่มเติม นานกว่า 3 ชั่วโมง ขณะที่นายสันธนะเดินออกมาจากห้องสอบปากคำเพื่อที่จะขึ้นไปยังห้องควบคุมตัว ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ที่ผ่านมายืนยันว่า ไม่มีการออกหมายเรียก ส่วนการจับกุมในวันนี้ เป็นการควบคุมตัวไปเข้าพบอัยการ ซึ่งทั้งสำนักงานอัยการและศาลปิดทำการแล้ว ตำรวจจึงต้องควบคุมตัวตนเองไว้เพื่อนำส่งอัยการต่อไปในวันพรุ่งนี้ ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ 1
เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่ นายสันธนะ กล่าวว่า ตนเองไม่ใช่คนชอบสาบาน แต่ถ้าเรื่องนี้ทำผิดขอให้ฟ้าดินทำให้ตนเองอับอาย แต่เป็นเรื่องของการเมืองในขั้วที่มีปัญหากับตนเอง ซึ่งเมื่อวานนี้มีพลตำรวจเอกโทรผ่านบุคคลที่ 3 เพื่อคุยกับตนเอง ซึ่งตนรู้ว่าจะมีข้อแลกเปลี่ยน หากตนคุย เนื่องจากมีหมายจับออกแล้ว ก็จะเป็นการแลกเปลี่ยนกันหรือไม่
ส่วนที่มีการเรียกค่าไถ่คนไต้หวันนั้น ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักคนไต้หวันมาก่อน เพียงแค่เขาเคยอาศัยรถคนติดตามตนเองมา ซึ่งมีเรื่องกันมาก่อน และตนเองช่วยเคลียร์ให้ เพราะเป็นพลเมืองดี และบุคคลดังกล่าวมีการโกงผู้เสียหายชาวไต้หวัน จำนวน 2.7 ล้านดอลลาร์ โดยตีเป็นเงินไทย 100 ล้านบาท และเมื่อเกิดเรื่องก็มีการเรียกรับเงินจากตนเองกว่า 6 ล้านบาทอีก
ส่วนในอดีตเคยจับแต่โจร วันนี้ต้องมาถูกควบคุมตัว นอนห้องขัง นายสันธนะกล่าวว่า ก็ต้องยอมรับ หากคิดจะต่อสู้ เพราะวันนี้สู้กับฝ่ายการเมืองและอำนาจรัฐที่ไม่ชอบธรรม
ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการออกมาแฉนักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับกัมพูชาหรือไม่นั้น นายสันธนะ ถามกลับว่า ใช่หรือไม่ ที่ผ่านมาพยายามนิ่ง ซึ่งวันนี้ยืนยันว่าไม่กลัวเพราะไม่ได้ทำผิด ทั้งยังขอให้ตำรวจควบคุมตัวที่ สน.ทองหล่อด้วย เพราะตนเองจะได้ใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่ เช่นการดำเนินคดีฟ้องกลับทุกคน หากเลวร้ายถึงขั้นต้องเข้าเรือนจำ ดีเหมือนกัน จะได้ปรึกษากับพี่ใหญ่ที่เขารออยู่ข้างใน
หากเข้าไปแล้วไม่กลัวคู่อริหรือไม่นั้น นายสันธนะ กล่าวว่า หากให้ตนเองอยู่ข้างนอก ก็เหมือนเป็นเจ้าพ่อ และถ้าไปอยู่ข้างในเดี๋ยวจะเป็นเจ้าพ่อ คุกผมก็ไม่ได้แปลกใจ หรือรู้สึกอะไร พร้อมยืนยันว่า ไม่สามารถควบคุมตัวได้แน่นอนในคดี เพราะมีการทำตามขั้นตอนตามกฎหมาย
...
ส่วนหลักฐานเด็ดที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง ขอให้ตนเองพ้นภาระเรื่องนี้ จะเดินเข้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง แล้วประกาศตัวเป็นสมาชิกพรรคการเมืองพรรคนั้น และจะสนับสนุนให้ข้อมูลฝ่ายการเมืองทั้งหมด ให้พังกันไปข้างหนึ่ง ก็ไม่เป็นไร พร้อมย้ำว่ามั่นใจ ว่าเกี่ยวกับการเมืองแน่นอน เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นมา 4 ปีแล้ว
ส่วนที่ “บังมัด คลองตัน” ฝากเพื่อนสนิท นำข้าวกระเพราไก่ไข่ดาวมาให้นั้น ฝากบอกบังมัดว่า ให้เอาไว้ไปเยี่ยมตัวเองกับพวกอีก 9 คน เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องดำเนินคดี