“สันธนะ” อ้างมีพลเอกโทรเคลียร์ก่อนถูกจับ เตรียมแฉนายพลพัวพันคดี พร้อมท้า “นายกหนู-เนวิน” เจอกันบนเส้นทางการเมือง มั่นใจไปต่อได้

เมื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 14 พ.ย. 68 พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.ทองหล่อ สั่งการให้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ พร้อมกำลังควบคุม นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อายุ 66 ปี อดีตตำรวจสันติบาล นายทรงยศ เชื่อถือ อายุ 58 ปี นายสมจินต์ รัตนโชติพานิช อายุ 59 ปี และนายพิรวัชร์ ยงทองคำทิพย์ อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ในคดี อั้งยี่ ซ่องโจร และร่วมกันอุ้มรีดทรัพย์นักธุรกิจจำหน่ายถุงมือยางทางการแพทย์ นายเวน ยู ชุง ชาวไต้หวัน 90 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อ 28 มี.ค.ปี 64 เพื่อส่งมอบให้อัยการ ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อดำเนินการส่งฟ้องต่อศาลในวันนี้

ระหว่างถูกนำตัวออกจาก สน.ทองหล่อ นายสันธนะ เปิดเผยว่า เมื่อคืนไม่ได้หลับเลย เพราะในฐานะลูกพี่ ต้องคอยดูแลลูกน้องในห้องขัง ยืนยันว่าไม่ได้ดีด แต่เป็นความรักลูกน้อง

สำหรับกระแสข่าวว่า มีนายตำรวจยศพลตำรวจเอก โทรศัพท์พูดคุยก่อนการจับกุม นายสันธนะระบุว่า เป็นพลตำรวจเอกที่ยังรับราชการ และหลังจากนี้ตนจะออกมาแฉนายพลหลายคนว่า มีส่วนพัวพันอะไรบ้างในคดีที่ผ่านมา

นายสันธนะ กล่าวถึงกรณีคดีนี้ว่า หมายจับออกตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. เป็นคดีเก่าที่ถูกขุดขึ้นมาเพื่อกลั่นแกล้ง มองว่าไม่ยุติธรรม ยืนยันว่าตนไม่ผิด และถูกทำให้เสียอิสรภาพ พร้อมระบุว่าไม่ห่วงชื่อเสียง แต่ห่วงความถูกต้อง

ส่วนเหตุการณ์วานนี้ที่มีประเด็นกับ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเข้าจับกุมจนถึงขั้นเกิดเหตุปัดหมวกกัน ปฏิเสธว่าเป็นการปัดหมวก แต่ยอมรับว่าเป็นการเปิดหมวก เนื่องจากตนเคยเป็นผู้ขัดแย้งเมื่อครั้งที่ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ ดำรงตำแหน่ง ผกก.สน.คลองตัน อยากจะเห็นหน้าชัดๆ ยืนยันว่า ไม่ได้ตบ หรือปัดหมวกด้วยความก้าวร้าว แต่เมื่อการกระทำของชุดจับกุมไม่ให้เกียรติ และพยายามจะใส่กุญแจมือ ตนก็ไม่ให้เกียรติ แม้จะเป็นนายพล หากไม่ให้เกียรติตน ตนก็ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติกลับ เพราะศาลยังไม่ได้ตัดสินว่าตนกระทำผิด

...


ส่วนกระแสว่าจะลงสมัครการเมืองหลังคดีเสร็จสิ้น นายสันธนะ กล่าวว่า ยังไม่เปิดเผยพรรค และย้ำว่าเรื่องแบบนี้หัวหน้าพรรคเท่านั้นที่ตัดสินใจได้ และสำหรับคนชื่อเนและหนู “พบกันบนเส้นทางการเมือง” สุดท้ายนายสันธนะได้ พร้อมทิ้งท้ายว่า “สำหรับผม มีแต่มิตรแท้ แต่ศัตรูถาวร”

ด้านกำลังเจ้าหน้าที่ สน.ทองหล่อ ได้จัดรถตู้พร้อม ชุดเคลื่อนที่เร็วประกบหน้า หลัง และรถกระบะอีก 1 คัน คอยดูแลความปลอดภัยระหว่างนำตัวนายสันธนะและพวกไปศาล

มีรายงานเพิ่มเติมว่า ตำรวจสามารถควบคุมตัว ผู้ต้องหารายที่ 5 ในคดีเดียวกันได้แล้ว และอยู่ระหว่างนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ก่อนส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ในช่วงบ่ายวันนี้

สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมด ไม่ไปรายงานตัวต่ออัยการตามนัดตั้งแต่ปี 2567 อ้างเหตุขอความเป็นธรรม ทำให้พนักงานอัยการมอบหมายให้ตำรวจไปขอศาลออกหมายจับ ก่อนจะสามารถจับกุมได้เมื่อวานที่ผ่านมา

ต่อมา นายสันธนะได้ยื่นหลักทรัพย์เงินสดขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนคนละ 400,000 บาท รวม 2 ล้านบาท ศาลอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่