"พล.ต.ท.จิรภพ" พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน คุมตัว "แส จิ้นเจียง" เบื้องหลังสแกมเมอร์รายสำคัญ เจ้าพ่อชเวโก๊กโก เป็นผู้ร้ายข้ามแดน ส่งให้ทางการจีน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ
วันที่ 12 พ.ย. 68 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน ร่วมภารกิจส่งตัว นายแส จิ้นเจียง (She Zhijiang) เจ้าพ่อชเวโก๊กโก ให้กับทางการจีน หลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศจีน
โดยก่อนหน้านี้ นายแส จิ้นเจียง ได้ถูกทางการจีนออกหมายจับในข้อหาจัดตั้งและบริหารเว็บไซต์การพนันออนไลน์ข้ามชาติ, ฟอกเงินจากกิจกรรมผิดกฎหมาย และร่วมกันจัดตั้งขบวนการอาชญากรรม ตั้งบริษัทบังหน้าในหลายประเทศ โดยมีการพบว่า ผู้ต้องหารายนี้ใช้ประเทศเมียนมาเป็นฐานตั้งบริษัทบังหน้าทำธุรกิจพนันออนไลน์ข้ามชาติ เงินหมุนเวียนกว่า 280 ล้านหยวน และฟอกเงินออกต่างประเทศกว่า 150 ล้านหยวน
ซึ่งในวันนี้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอศ.ตร. พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน CIB ได้ควบคุมตัว นายแส จิ้นเจียง จากเรือนจำไปยังห้องควบคุมของ สภ.สุวรรณภูมิ เพื่อนำตัวส่งให้ทางการจีนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
...
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยการส่งตัวนายแส จิ้นเจียง หรือ นายเฉอ จื้อเจียง ผู้ต้องหารายสำคัญกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศจีนว่า เป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจจีนและสถานเอกอัครราชทูตจีนที่ได้ประสานกับตำรวจไทย เพื่อขอตัวนายแส ผ่านการนำพยานหลักฐานจากการสอบสวนของตำรวจจีนไปขอหมายแดงหรือหมายจับจากตำรวจสากล ก่อนที่ได้ดำเนินการประสานเรื่องมากับตำรวจไทยจับกุมและควบคุมตัวส่งกลับประเทศจีน ตามที่ทั้งสองประเทศมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน
สาเหตุที่ไทยส่งตัวช้าถึง 2 ปี เนื่องจาก นายแส ได้ใช้สิทธิทางกฎหมายร้องขอความเป็นธรรม ด้วยการว่าจ้างทนายความยื่นต่อสู้คัดค้านการส่งตัวกลับประเทศจีน ทั้งในชั้นศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ หรือแม้กระทั่งใช้สิทธิโต้แย้งข้อกฎหมายต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่สุดท้ายทุกศาลก็มีคำตัดสินว่า การส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้นชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนการสอบปากคำ นายแส ยังปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับขบวนการเว็บพนันออนไลน์และสแกมเมอร์ แต่จากพยานหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่า นายแส คือผู้สร้างกาสิโนรายใหญ่ และเว็บพนันออนไลน์ รวมทั้งเป็นผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ในเมืองชเวโก๊กโก และยังเป็นผู้สร้างกาสิโนในเกาะกง ประเทศกัมพูชา จนถึงขนาดขอสัญชาติกัมพูชาได้อีกสัญชาติหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม แม้จะจับตัวนายแส ได้แล้ว แต่ยังมีทายาทนักธุรกิจที่เป็นผู้มีอิทธิพล หรือระดับบอส อยู่ในพื้นที่เมืองชเวโก๊กโกและอีกหลายเมืองในประเทศเมียนมา เช่น เมียวดี รวมทั้งคิงส์โรมันในประเทศลาว และอีกหลายจุดในกัมพูชา ซึ่งล้วนแต่เป็นชาวจีนทั้งนั้น
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวอีกว่า คนจีนเทาที่ขอสัญชาติกัมพูชาหรือสัญชาติที่สองจากประเทศอื่นนั้น จากข้อมูลพบว่า บางประเทศนั้นสามารถขอสัญชาติได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่จ่ายเงินก็ได้สัญชาติแล้ว
ด้านนายจ้าว เมิ่งเทา ที่ปรึกษาฝ่ายการเมือง สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ทั้งฝ่ายตำรวจ ฝ่ายยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญคนนี้และดำเนินการส่งกลับประเทศจีนตามที่ทางการจีนร้องขอ จากนี้จะได้นำตัวนายแสไปดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายจีนต่อไป พร้อมยืนยันว่า ทางการจีนพร้อมให้ความร่วมมือกับประเทศไทยและนานาประเทศในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบอย่างจริงจัง
ส่วนเรื่องความผิดเมื่อกลับถึงประเทศจีน นายจ้าวบอกว่า ต้องกลับไปดูกฎหมายว่าผิดสถานใดบ้าง อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาจะได้รับโทษตามกฎหมายที่บัญญัติไว้สูงสุด
สำหรับการส่งตัวนายแส ถูกส่งกลับประเทศจีน โดยสายการบิน Beijing Capital Airlines ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนควบคุมตัวอย่างเข้มงวด โดยเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลา 16.20 น. วันนี้