หนีไม่รอด ตำรวจจับคนร้ายฆ่าโหด "ไกด์สาว" คาลานจอดรถห้าง จ.ภูเก็ต พร้อมสารภาพไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หวังขโมยทองไปขายใช้หนี้
เมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 10 พ.ย. 2568 ร.ต.ท.สุเมธ เพชรเรือน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งพบรถต้องสงสัยที่หายไปจอดทิ้งไว้ที่บริเวณบ้านร้างภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ถ.เทพกษัตรี ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งคาดว่าเป็นรถของบุคคลที่ญาติได้แจ้งความไว้กับ สภ.วิชิต เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2568 เนื่องจากหายตัวไปไม่กลับบ้านพักตามปกติและไม่ทราบชะตากรรม
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเป็นที่เปลี่ยว มีบ้านร้าง ใต้ต้นไม้ใหญ่พบรถเก๋งสีบรอนซ์เทาจอดอยู่ โดยประตูรถไม่ได้ล็อก เมื่อมองผ่านกระจกเข้าไปภายในรถ พบศพหญิงสาวศีรษะทิ่มลงที่วางเท้า ขาชี้อยู่บนเบาะคนนั่ง สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นลายดอก นุ่งกางเกงขายาวสีดำ จากนั้น พฐ. ได้เปิดประตูรถเพื่อตรวจสอบ โดยภายในรถมีร่องรอยการต่อสู้ ไฟส่องสว่างที่ติดอยู่เพดานรถแตก พระที่ตั้งอยู่หน้ารถกระจัดกระจาย ในมือขวาของศพกำพระเครื่องหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดอยู่ 1 องค์
...
ทั้งนี้ เบื้องต้นไม่พบบาดแผลตามร่างกายของศพ เนื่องจากสภาพศพขึ้นอืด ผิวหนังบวมและเปลี่ยนสีแล้ว จึงไม่เห็นบาดแผลที่เด่นชัด ซึ่งเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ทราบชื่อผู้ตายคือ น.ส.อรทัย หรือ ไกด์กลาง อายุพงษ์ อายุ 56 ปี มีอาชีพเป็นมัคคุเทศก์ หรือไกด์ของบริษัทท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต และยังเป็นอุปนายกสมาคมมัคคุเทศก์อันดามัน จึงนำศพออกจากรถแล้วนำส่ง รพ.วชิระภูเก็ต เพื่อผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ตและชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ได้ควบคุมตัว นายจิรศักดิ์ ยอดบำ อายุ 43 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุฆ่า น.ส.อรทัย แล้วนำรถเก๋งของผู้ตายมาจอดทิ้งไว้หน้าบ้านร้างมาชี้ที่เกิดเหตุ หลังจากที่ชุดสืบสวนแกะรอยจากจุดที่ น.ส.อรทัย ผู้ตายจอดรถที่ห้างแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจาก น.ส.อรทัย จะจอดรถเก๋งส่วนตัวคันดังกล่าวไว้ที่ลานจอดรถของห้างดังกล่าวอยู่เป็นประจำ ก่อนที่จะให้รถตู้ของบริษัทมารับเพื่อไปทำงานเป็นไกด์ตามปกติ
จนกระทั่ง ญาติและเพื่อนๆ ของ น.ส.อรทัย ได้เข้าแจ้งความคนหายที่ สภ.วิชิต เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา จนพบว่ามีชายต้องสงสัยนำรถของ น.ส.อรทัย ผู้ตายขับออกจากห้างดังกล่าวในวันที่ 7 พ.ย. จากนั้นชุดสืบสวนได้แกะรอยจากกล้องวงจรปิดของห้างและตามที่สาธารณะต่างๆ จนกระทั่งพบชายต้องสงสัยพักอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง จึงได้เฝ้าติดตาม
ต่อมาเวลา 14.00 น. วันที่ 10 พ.ย. 2568 เมื่อหลักฐานต่างๆ เชื่อได้ว่าชายต้องสงสัยอาจก่อเหตุกับ น.ส.อรทัย ชุดสืบสวนจึงเฝ้าติดตามพบรถกระบะที่มีชายต้องสงสัยกำลังขับออกจากหมู่บ้าน ช่วงขับไปติดไฟแดงบริเวณสี่แยกบ้านบางคู ถ.เทพกษัตรี ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต ชุดสืบสวนจึงขับประกบแล้วเปิดประตูรถกระบะที่ชายต้องสงสัยเป็นคนขับอยู่เพียงลำพัง พร้อมกับแสดงตัว
จากนั้นได้นำรถกระบะจอดข้างทาง ทราบชื่อคนขับรถกระบะคือ นายจิรศักดิ์ ยอดบำ อายุ 43 ปี ภูมิลำเนาเดิม อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ขณะนั้นนายจิรศักดิ์รู้แล้วว่ากำลังถูกจับกุมตัว เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่า น.ส.อรทัย หมกรถเก๋งของผู้ตายก่อนชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และนาฬิกาแอปเปิลวอตช์อีก 1 เรือนไป พร้อมกับแจ้งชุดสืบสวนว่า นำรถและศพผู้ตายไปทิ้งไว้จุดใดภายในหมู่บ้าน ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต
นายจิรศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อเวลา 16.47 น. วันที่ 7 พ.ย. 2568 ได้ไปพบผู้ตายที่ห้างแห่งหนึ่ง อ.เมืองภูเก็ต โดยบังเอิญ ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ขณะนั้นผู้ตายกำลังเดินออกจากตัวห้างไปยังลานจอดรถ จากนั้นตนได้เดินตามไป เมื่อผู้ตายเปิดรถเก๋ง ตนจึงเปิดประตูหลังคนขับเข้าไปในรถและมีการต่อสู้กันภายในรถ โดยผู้ตายพยายามจะดิ้นรนและบีบแตรรถให้คนอื่นได้ยิน แต่ตนได้ล็อกคอและบีบคอผู้ตายไว้ ทำให้มือผู้ตายไปคว้าพระเครื่องที่ห้อยอยู่หน้ารถกำอยู่ในมือ
จากนั้นจึงผลักผู้ตายไปที่เบาะคนนั่ง แล้วอ้อมมานั่งที่เบาะคนขับ นำเสื่อที่อยู่ในรถมาปิดบังศพไว้ แล้วปลดสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ที่ผู้ตายใส่อยู่ที่คอ แล้วขับรถผู้ตายออกจากห้างมาจอดทิ้งไว้ที่หน้าบ้านร้าง จากนั้นได้เรียกรถจักรยานยนต์รับจ้างออกจากหมู่บ้าน เพื่อมาขายสร้อยคอทองคำที่ร้านทองภายในห้างดังกล่าวอีกครั้ง จนได้เงิน 43,000 บาท แล้วนำเงินไปใช้หนี้จนหมด จึงขับรถกระบะกลับไป อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
...
ต่อมาวันที่ 8 พ.ย. 2568 ได้ขับรถกระบะกลับมายัง จ.ภูเก็ต และทำงานรับจ้างเดินสายอินเทอร์เน็ตตามปกติ แต่จะแวะเวียนมาดูรถและศพของผู้ตายทุกวัน จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวในที่สุด เบื้องต้นรับสารภาพได้ก่อเหตุจริง เนื่องจากมีหนี้สินมาก กระทั่งมาพบกับผู้ตายภายในห้าง และก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากเห็นสร้อยคอทองคำที่ผู้ตายสวมใส่อยู่จึงก่อเหตุ จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต แจ้งข้อหาฆ่าชิงทรัพย์ผู้อื่น
ทั้งนี้ ขณะที่นายจิรศักดิ์กำลังชี้ที่เกิดเหตุอยู่นั้น ได้มีกลุ่มเพื่อนของ น.ส.อรทัย ผู้ตายที่ทราบข่าวได้วิ่งเข้าไปชกที่ใบหน้านายจิรศักดิ์ 1 ครั้ง เนื่องจากโกรธแค้นที่ฆ่าเพื่อน
ทางด้าน พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากที่ สภ.วิชิตได้รับแจ้งคนหายเมื่อวันที่ 8 พ.ย.68 จากนั้นเราได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าผู้เสียชีวิตไปเดินซื้อของอยู่ที่ห้าง และมีชายเดินตามแล้วขึ้นรถของผู้ตาย โดยผู้เสียชีวิตขาดการติดต่อไป เมื่อตรวจสอบจากพยานหลักฐานต่างๆ จนพบว่าชายดังกล่าวอายุราว 43 ปี จึงเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาในเวลาต่อมา และนำเรามาสู่จุดที่พบศพภายในรถคันที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเป็นเหตุที่ประสงค์ต่อทรัพย์ของผู้ตาย โดยมีสร้อยทองคำหนัก 1 บาทและโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องที่หายไป ซึ่งผู้ต้องหาได้นำสร้อยคอทองคำไปขาย โดยอยู่ระหว่างการติดตามนำทรัพย์สินกลับคืนมา ซึ่งเราสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ขณะขับรถติดไฟแดงอยู่ที่สี่แยกบ้านบางคู ถ.เทพกษัตรี ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต เนื่องจากผู้ต้องหาจะขับรถไปกลับบ้านที่ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ทุกวัน จนเราสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด.