ทุนเทาครองเมือง แนะใช้อำนาจรัฐ ปราบสแกมเมอร์จริงจัง

"พล.ต.อ.สุรเชษฐ์-พล.ท.พงศกร" แนะใช้อำนาจรัฐ ปราบสแกมเมอร์จริงจัง ไม่ใช่แค่เป็นเจ้าภาพจัดประชุม ชี้ไทยอ่อนเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย

วันที่  10 พ.ย. 68 หลังรัฐบาล “อนุทิน ชาญวีรกูล” กำลังเผชิญแรงกดดันรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจสีเทาที่เข้ามาเชื่อมโยงกับอำนาจรัฐ สร้างความเสียหายในวงกว้าง จนรัฐบาลนิ่งเฉยไม่ได้ เดินหน้าเปิดปฏิบัติการตรวจสอบการไหลของเงินต้องสงสัยที่เชื่อมโยงกับเว็บพนันและการใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งฟอกเงิน ในขณะเดียวกันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมาระอุอีกครั้ง หลังมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดซ้ำ ศึกสองด้านทั้งทุนเทาและชายแดน กลายเป็นบททดสอบสำคัญครั้งใหญ่ของรัฐบาลอนุทินที่ต้องเร่งจัดการ เพื่อสร้างคะแนนนิยม

ในรายการ Newsroom ทางยูทูบ Thairath News - ข่าวไทยรัฐ วันนี้ พูดคุยกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. และ พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ดำเนินรายการโดย กาย พงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เผยถึงรายชื่อที่เกี่ยวกับสแกมเมอร์ ซึ่งนำมาเปิดต่อเนื่องว่า วันนี้อาชญากรรมที่เกี่ยวกับสแกมเมอร์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือโรแมนซ์สแกม มันเกี่ยวพันกันทั้งหมด จึงเรียกว่าสแกมเมอร์ ซึ่งสร้างความเสียหายให้ประเทศมหาศาล ไปจนถึงมีอิทธิพลต่อรัฐบาลในเวลานี้ รวมถึงการคอร์รัปชั่นทุกชนิด โดยข้าราชการ โดยตำรวจ ผู้ที่บังคับใช้กฎหมาย วันนี้จากการที่เปิดข้อมูลต่างๆ ออกมา ต้องยอมรับว่ายังไม่มีความเคลื่อนไหวจาก ผบ.ตร. ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินคดี หรือการให้ออกจากราชการ ซึ่งรายชื่อนี้ ตนได้ส่งไปให้ตั้งแต่ ส.ค. 2567 ทั้งนี้ สำหรับบัญชีที่ตนส่งให้นั้น เป็นบัญชีของบุคคล เช่น บัญชีของ นาย ก. รับโอนเงินจากเว็บพนันอะไร เห็นชัดเจน เอาไปดำเนินการได้เลย แต่ก็ไม่ดำเนินการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยต่อว่า สำหรับเรื่องสแกมเมอร์ วันนี้เท่าที่ติดตาม ยังไม่เห็นอะไรที่จะเกิดขึ้นได้เลย วันนี้เราจะเห็นว่านายกฯ เดินทางไปประชุมที่เกาหลี ไปบอกว่าไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมการปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่งถ้าเป็นตน ตนจะบอกว่าวันนี้ ไทยในฐานะเป็นไข่แดง ล้อมรอบด้วยสแกมเมอร์ ไทยจะเป็นเจ้าภาพในการปราบปราม ไม่ใช่เจ้าภาพจัดประชุม และตั้งแต่มีการตั้งศูนย์ ตั้งกรรมการ จนทำ MOU 15-16 หน่วยงาน แต่ก็เป็นแค่พิธีกรรม เอาคุณลุงคุณป้า ที่เคยได้รับเงินคืนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์เมื่อ 2 เดือนก่อน บินมารับมอบเงินจากนายกฯ อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าทำเพื่ออะไร เพราะเขาได้เงินไปแล้ว เรื่องนี้มีเพียงอีเวนต์ที่ได้ประโยชน์จากค่าจ้างจัดงาน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกด้วยว่า สำหรับการจับกุม "ลียง พัด" นั้น ต้องบอกว่าตนก็รู้จัก เพราะตนยังเคยให้เขาพาไปจับสแกมเมอร์ที่กัมพูชา "ลียง พัด" อยู่เมืองไทยมากว่า 30 ปีแล้ว ไปยึดทรัพย์เขาหลักพันล้าน ทั้งๆ ที่เขามีเป็นหมื่นล้าน ออกหมายจับ แต่ไม่ได้ตัว วันนี้สิ่งที่ต้องทำคือ เราต้องไปขอข้อมูลจากสหรัฐฯ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฯลฯ ที่เขามีการยึดทรัพย์บริษัทเหล่านี้แล้ว เมื่อได้ข้อมูลมา ก็มาดูว่าคนไทยคนไหนที่เกี่ยวข้องบ้าง มีการฟอกเงินเชื่อมโยงไปบริษัทไหนบ้าง ส่วนเว็บพนันเอง ก็ต้องบอกว่าเป็นอาหารอันโอชะของตำรวจที่คอร์รัปชั่น ไม่ได้บอกว่าตำรวจเลวทั้งหมด วันนี้ ผบ.ตร. ต้องเป็นหลักทั้งหมด เนื่องจากมีทั้งกำลังพล และความสามารถในการสืบสวน แต่วันนี้ต้องยอมรับว่าเราอ่อนในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย

"ทุกวันนี้คดีที่จับก็จะจับในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง หลบหนีเข้าเมือง ไม่มีประโยชน์ แต่ในสมัยที่ตนทำนั้น ตนจับในความผิดมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ คนขายบัญชีม้า ได้เงิน 3,000 บาท รับโทษ 10 ปี กับหัวหน้าแก๊งรับโทษ 10 ปี เหมือนกัน" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

พล.ท.พงศกร รอดชมภู เผยว่า ตนเคยบอกว่า ถ้าตั้งข้อหาแค่ร่วมกันฉ้อโกง มันเป่าง่ายไปไหม ซึ่งในที่ประชุมเองสิ่งที่ตนเห็นคือ แต่ละหน่วยงานแยกกันชัดเจน ต่างตนต่างทำ แต่รอบสุดท้ายที่คุย เนื่องจาก ป.ป.ง. มี พ.ร.บ.อยู่ บังคับให้อะไรก็แล้วแต่ที่สงสัยให้ทำไปก่อน จากนั้นก็จะมีกรรมการที่เอาทุกคนมารวมกัน และเริ่มหาเส้นเงิน หรือสิ่งผิดปกติ แล้วให้ตำรวจไปเดินคู่กับ ป.ป.ง. แต่ถ้ามัวแต่จะจัดอีเวนต์มันจะไม่ทัน เพราะเวลาของนายกฯ อนุทินจะหมดแล้ว ดังนั้นต้องยึดทรัพย์ให้เห็นกับตา อย่างกลุ่มเฉินจื้อ ถ้ามีในไทยก็สบายเลย อีกกลุ่มคือ กลุ่มตระกูลฮุน ซึ่งอยู่เบื้องหลังสถานการณ์ชายแดน ตระกูลฮุนในประเทศไทย ถ้าไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ลองไปเดินแถวสุขุมวิท เพชรบุรี จะเจอ ตัวเลขวงเงินเฉพาะกัมพูชาไม่ทราบ แต่เราเสียให้ระบบสแกมเมอร์ทั้งหมด 100,000-300,000 ล้านบาทต่อปี แต่เฉลี่ยได้คืนแค่ประมาณ 1% เท่านั้น ซึ่งคดีทั้งหมดตอนนี้ส่วนใหญ่จะจับอยู่แต่บัญชีม้า เจ้าของคอกหาไม่เจอ และคนที่ทำได้ตอนนี้คือ นายกฯ อนุทิน ที่มีอำนาจสั่งการได้เลย 

เมื่อถามถึงการทำงานของตำรวจในขณะนี้นั้น พล.ท.พงศกร เผยว่า ตนไม่ได้มองแค่ตำรวจ แต่มองในภาพใหญ่กว่านั้น ระบบข้าราชการประจำ และข้าราชการการเมือง ได้ถูกแทรกซึมเกือบหมดแล้ว เหมือนประเทศไทยถูกยึดไปแล้วด้วยเงินดำ ที่ซื้อได้หมด ดังนั้นวิธีการที่จะสู้ได้คือ การใช้อำนาจรัฐ โดยเจตจำนงทางการเมืองบี้ จากรายชื่อทั้ง 43 ชื่อที่สหรัฐฯ เปิดมา ประกาศเลยว่ามีชื่อไหนที่เกี่ยวข้องกับคนไทยบ้าง จากนั้นก็ใช้กฎหมายเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในการจัดการ ตามน้ำอย่างเดียว และทำให้เร็ว

"นายกฯ บอกว่าสแกมเมอร์อยู่รอบไทย แต่อย่าลืมว่าเขามาฟอกเงินในไทย เพราะฉะนั้นไปตามได้เลย ไปดูบัญชีต่างๆ ที่มีนอมินี ซึ่งหาเจอไม่ยาก เมื่อเจอแล้วจะรู้ว่าประเภทที่ประมูลถูกจัดแบบที่เป็นไปไม่ได้ แบบที่สร้างไปแล้วตึกจะพัง แล้วไปซื้อของในบริษัทตัวเองแบบแพงจัด แบบนี้เป็นการฟอกเงินหมด เราสามารถจัดการได้เลยทั้งหมด ใช้เวลาไม่นาน แล้วก็ไปพาสหรัฐฯ และจีนเข้ามา เพื่อให้เขาหนีออกไปจากประเทศไทย ให้เขารู้สึกว่าต้องหนี ขอให้ตั้งใจทำ เชื่อว่ากวาดได้แป๊บเดียวก็หมด" พล.ท.พงศกร กล่าว

ติดตามได้ทั้งหมดใน รายการ Newsroom ทางยูทูบ Thairath News - ข่าวไทยรัฐ