พฤติการณ์ "แก๊งสแกมเมอร์" ใช้นวัตกรรมใหม่ โดยการเอาภาพนิ่งของเหยื่อมาเข้าระบบ AI เพื่อให้หันหน้าซ้าย ขวา กะพริบตา อ้าปาก หลอกกับระบบ KYC ของธนาคาร
ภายหลังจาก พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. หรือ "บิ๊กก้อง" บุกรังการเงิน "สแกมเมอร์" ที่หนีมาจากกัมพูชา พบนวัตกรรมใหม่สุดล้ำ AI หลอก AI นำภาพนิ่งของเหยื่อผู้เสียหายมาเข้าระบบ AI นำไปหลอกกับระบบ KYC ของธนาคารและเงินดิจิทัล จับชาวจีน 4 ราย คอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง โทรศัพท์ 60 เครื่อง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (“บิ๊กก้อง” บุกรังการเงินสแกมเมอร์ ใช้คอนโดหรู ตั้งฐาน นวัตกรรมใหม่สุดล้ำ AI หลอก AI)
เปิดพฤติการณ์ "แก๊งสแกมเมอร์" ใช้ AI หลอก AI
แก๊งสแกมเมอร์ชาวจีน จำนวน 4 ราย ถูกจับกุมได้ที่คอนโดหรูภายใน ซ.สุขุมวิท 16 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย จ.กรุงเทพฯ โดยพบนวัตกรรมใหม่ใช้ AI หลอก AI เนื่องด้วยเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบเบาะแส พบว่ามีกลุ่มบอสหนุ่มชาวจีนรายใหญ่หลายราย ได้หลบหนีจากประเทศกัมพูชาเข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทย
สืบสวนจนพบกลุ่มชาวจีนต้องสงสัย 4 ราย แอบขนอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมาก พร้อมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แปลกๆ เข้าไปในคอนโดหรูภายใน ซ.สุขุมวิท 16
ต่อมาเจ้าหน้าที่แฝงตัวเป็นช่างอาคาร จนพบว่ามีการตั้งห้องวอร์รูม เป็นฐานบัญชาการอยู่ภายในคอนโดหรูดังกล่าว และมีการมั่วสุมยาเสพติดอีกด้วย จากนั้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบ ห้องสูทหรูในคอนโดชื่อดัง ซ.สุขุมวิท 16 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย จ.กรุงเทพฯ โดยใช้ยุทธวิธีเข้าจับอย่างฉับพลัน จนทำให้กลุ่มผู้ต้องหาไม่ทันตั้งตัว และไม่สามารถทำลายพยานหลักฐานในคอมพิวเตอร์ได้
...
ทั้งนี้ ผลการตรวจค้นพบห้องวอร์รูม มีคอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง ยังคงเปิดค้างไว้ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นการเงินของแก๊งสแกมเมอร์ ตรวจสอบพบนวัตกรรมใหม่ โดยการใช้ AI หลอก AI โดยการเอาภาพนิ่งของเหยื่อผู้เสียหาย มาเข้าระบบ AI เพื่อให้หันหน้าซ้าย ขวา กะพริบตา อ้าปาก จากนั้นนำคลิปที่ได้จากการทำ AI ดังกล่าว นำไปหลอกกับระบบ KYC ของธนาคารและเงินดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม ถือเป็นกระบวนการที่อันตรายมาก เพราะทำให้ผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหาได้อย่างง่ายดาย และจากการตรวจสอบพบโทรศัพท์ 60 เครื่อง ตรวจพบยาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 2 ถุง พบตัวผู้ต้องหาชาวจีน 4 ราย ตรวจสอบพบว่าเพิ่งเดินทางมาจากประเทศกัมพูชา.