เปิดคำรับสารภาพของ "เซียนพระ" หลังก่อเหตุฆ่ารักคอ ถ่วงน้ำกิ๊กสาว ในพื้นที่ จ.นครปฐม ดาวน์รถซิ่งหนี แต่เจอตำรวจไล่ล่า ก่อนรถเสียหลักพลิกคว่ำ จนมุมถูกจับ

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 7 พ.ย.68 ที่ หน้าสำนักงานตำรวจ ภาค 7 นครปฐม พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 ฝ่ายปราบปราม พล.ต.ต.กานต์ ธรรมเกษม ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กำเนิด ผกก.สภ.บางเลน พร้อมชุดสืบสวน ภาค 7 ภ.จว.นครปฐม สืบสวน สภ.บางเลน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายศุภโชค ศรีนคร อายุ 48 ปี ที่ก่อเหตุฆ่า น.ส.สกุลรัตน์ อายุ 50 ปี พร้อมด้วยของกลางรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีเทา รถยนต์นิสสัน จู๊ค สีแดง แท่นปูนประกอบท่อน้ำ ที่ใช้ลวดผูกติดกับลำตัวผู้ตายก่อนนำไปถ่วงทิ้งน้ำ คีมตัดลวด พระเครื่อง 1 องค์ แหวนทอง 1 วง โดยจับกุมตัวได้ที่ไร่อ้อย หมู่ 9 ต.หนองโสน อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เมื่อช่วงเช้าวันนี้ หลังทำการสอบสวนนานกว่า 2 ชม.

พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เผยถึงขั้นตอนที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า สาเหตุของการฆ่าในครั้งนี้เกิดจากเรื่องชู้สาว และหึงหวง เพราะคนตายมีพฤติกรรมตีตัวออกห่าง ประกอบกับภรรยาจับได้ว่าเป็นกิ๊กกัน ซึ่งผู้ตายนั้นประกอบธุรกิจเป็นทั้งผู้รับเหมาก่อสร้างร้านกาแฟชื่อดัง ส่วนภรรยาเป็นผู้จัดหาคนงานไปทำงาน ทำให้ไปมาหาสู่กันบ่อย กระทั่งแอบกิ๊กกันโดยที่ภรรยาไม่รู้ และเมื่อเริ่มมีพิรุธ ก็ทะเลาะกันมาตลอด

...


กระทั่งวันที่ 2 พ.ย. ภรรยาโทรศัพท์ไปนัดผู้ตายให้มาเจรจากัน ก่อนผู้ตายจะขับรถนิสสันสีแดงมาที่บ้าน แต่นายศุภโชค ผู้ต้องหากลัวทะเลาะกันเสียงดัง กลัวแม่ภรรยาที่อยู่ด้วยจะโกรธ จึงชวนผู้ตายขึ้นรถไปด้วยกัน อ้างว่าจะพาไปที่ปั๊มน้ำมัน เพื่อคุยกันสองต่อสอง แต่กลับพาไปที่ไร่อ้อย ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเพียง 1 กิโลเมตร เมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง จึงรัดคอจนเสียชีวิต จากนั้นปลดทรัพย์ ซึ่งมีสร้อยข้อมือ 3 บาท และสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท เอาศพทิ้งไว้กลางไร่อ้อย แล้วขับรถกลับบ้าน 

แต่ด้วยกลัวว่าจะมีคนมาพบศพ จึงตัดสินใจไปซื้ออุปกรณ์ แล้วย้อนกลับไปมัดศพกับเสาปูน นำไปถ่วงน้ำ ก่อนจะกลับบ้านทำตัวปกติ ส่วนรถของผู้ตายได้นำไปจำนำกับเพื่อน อ้างว่าฝากจำนำไว้ก่อน เพราะกลัวเมียจับได้ เมื่อได้เงินมาก็นำไปดาวน์รถฮอนด้า ขับไปนครสวรรค์เพื่อนำทองไปขาย ได้เงินมาร่วม 3 แสนบาท จากนั้นขับรถกลับบ้าน กระทั่งทราบข่าวว่ามีคนไปพบศพแล้ว

นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังรับสารภาพอีกว่า หลังจากเห็นข่าวแล้วเริ่มตกใจกลัว เลยขับรถหนี คิดว่าจะไปอาศัยอยู่กับเพื่อนที่ จ.อุทัยธานี ระหว่างทางซึ่งเป็นช่วงค่ำ ขับรถมาถึง อ.เลาขวัญ มีรถตำรวจ สืบสวน ภาค 7 ไล่ติดตาม จึงเร่งเครื่องหนี ก่อนประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ และถูกจับกุมได้ในเวลาต่อมา

ด้าน พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม ยังเผยอีกว่า ในส่วนของผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภรรยาหรือคนให้ที่พักพิง หรือผู้รับจำนำ จะต้องนำมาสอบสวนทั้งหมด หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นหรือให้การสนับสนุนในครั้งนี้ ผบช.ภ.7 สั่งให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะถือเป็นคดีสะเทือนขวัญที่โหดเหี้ยม มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน สำหรับรถยนต์ทั้ง 2 คันนั้น ให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจอย่างละเอียดทั้งดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือ เราดำเนินการทุกมิติ ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจสอบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป