ผบ.ตร. ยืนยัน ไม่ปวดใจ แม้ "อัจฉริยะ-บิ๊กโจ๊ก" จูงมือกันเปิดโปงวงการตำรวจ ย้ำข้อมูลที่ส่งมาให้ตรวจ ไม่ใช่ยุคของตน ส่วนการแต่งตั้ง ยัน ไม่ได้แต่งตั้งเพื่อนรุ่น 41 ยึดทำเลทองหาผลประโยชน์ แต่ยึดจากความรู้ความสามารถและอาวุโสที่ใกล้เกษียณ


ช่วงบ่ายของวันที่ 7 พ.ย. 68 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายหลังจากที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูง และผู้บัญชาการหลายหน่วยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ห้องประชุมศรียานนท์

พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาให้สัมภาษณ์โดยกล่าวถึงเรื่องนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่มีการมานั่งเรียกร้องประท้วงการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า การที่มาเรียกร้องที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้นเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญที่สามารถทำได้ แต่ขอร้องอย่าให้กระทบต่อประชาชน หรือหากมีข้อมูลก็สามารถส่งมาได้โดยตรงพร้อมจะดำเนินการตรวจสอบ

และเรื่องนี้ตนเองก็ได้พูดในที่ประชุมเมื่อสักครู่ว่า เรื่องของนายอัจฉริยะไม่ได้ทำให้ปั่นป่วนหรือปวดหัว แต่ต้องดูว่าข้อมูลที่พูดมามีมูลความจริงหรือไม่ ถ้าจริงต้องเร่งดำเนินการ ขบวนการทั้งหมดจะทำอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ เรื่องทั้งหมดที่คนนอกพูดมา ทางตนขอไม่โต้แย้งหรือโต้เถียง แต่หากให้ตนพูดจะต้องใช้เป็นเวลานานในการอธิบายในแต่ละเรื่อง หลังจากนี้จะให้โฆษกเป็นผู้ดำเนินการ หากตรวจสอบรายละเอียดแล้ว พบมีใครเข้าไปเกี่ยวข้อง ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินการเอาผิดทันที

ส่วนการขีดเส้นตายของนายอัจฉริยะในการเรียกร้องให้ปิดเว็บพนันออนไลน์อีกจำนวนหลายเว็บ ที่มีบุคคลสำคัญเข้าไปมีส่วนร่วมภายในวันอาทิตย์นี้ ตนได้สั่งการในที่ประชุมบริหารกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งดำเนินการตามขั้นตอน โดยเฉพาะการปิด URL เว็บพนันออนไลน์ ว่าสามารถทำได้ทันทีหรือไม่ หรือตรวจสอบว่าเว็บดังกล่าวยังมีการเปิดให้บริการอยู่หรือไม่

...

รวมทั้งกรณีที่มีหลายฝ่ายมองว่า ตนเองได้แต่งตั้งเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยรุ่นที่ 41 ไปอยู่พื้นที่ทำเลทอง และมีความพยายามจะให้ผลประโยชน์กับนายอัจฉริยะ เดือนละ 200,000 บาท เรื่องดังกล่าวตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งเรื่องนี้การแต่งตั้งดูตามกฎหมายคือ จากอาวุโส ประวัติราชการ ผลการปฏิบัติงาน ทุกอย่างเป็นไปตามคุณสมบัติและขั้นตอนของ ตร. และยังผ่านกตร.ที่มีคณะกรรมการจากคนนอกสังกัดอีกด้วย โดยเฉพาะนักเรียนนายร้อยรุ่นที่ 41 ที่จะเกษียณในปีนี้ การแต่งตั้งทุกอย่างเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ แต่หากผู้บัญชาการ สอท. คนปัจจุบัน แม้ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น แต่หากมีการทำความผิดจริง เจ้าตัวก็จะต้องรับผิดชอบกับการกระทำ ทางตนเองในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็จะต้องดำเนินการอย่างไม่มีการละเว้น

ส่วนกรณี นายอัจฉริยะ และ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ที่เดินจูงมือกันเรียกร้อง เปิดโปงขบวนการเรียกรับส่วยของตำรวจในขบวนการแก๊งสแกมเมอร์ในช่วงเวลานี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยันว่า ตนไม่ปวดใจ แต่อย่าว่าองค์กร อย่าว่าวิชาชีพเรา พร้อมน้อมรับคำติเตียน ข้อมูลมีอะไรก็สามารถส่งมาโดยตรง ซึ่งบางข้อมูลที่ส่งมาแล้วแต่หาว่าทาง ตร.ไม่ทำ ตนขอบอกตรงนี้ว่า การที่ส่งข้อมูลให้มาตรวจสอบก่อนหน้านี้นั้น มันไม่ใช่ยุคของผม

พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ ย้ำว่า สำหรับผลงานการจับกุมแก๊งสแกมเมอร์ วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2568 นี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธานแถลงผลการจับกุมแก๊งสแกมเมอร์และเว็บพนันออนไลน์ด้วยตนเอง ซึ่งในวันนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะได้ชี้แจงให้ทราบว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผลงานการจับกุมอะไรบ้าง.