เจาะประเด็น เปิดพรมลากไส้ "ทุนเทา" พล.ท.พงศกร รอดชมภู ชี้จากทุนศูนย์เหรียญ สู่อาชญากรรมสแกมเมอร์ ดึงอำนาจรัฐเป็นผู้คุ้มครอง แนะไทยวางแผน ถ้าไม่อยากถูกย้ายจากเหยื่อไปเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เตือนนายกฯ ต้องฟัน ต้องเร่ง
วันที่ 6 พ.ย. 68 ในรายการ Newsroom Special Series Ep.2 ทางไทยรัฐทีวีช่อง 32 มีการนำเสนอเรื่องราวของ "ทุนเทา" ในตอน "สะพรึง! วงการกากีมีเอี่ยวสแกมเมอร์-เปิดพรมลากไส้ทุนเทา" โดยมีผู้ร่วมรายการคือ พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ มี กาย-พงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ ทำหน้าที่ดำเนินรายการ
พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ เปิดเผยว่า ปัญหาสแกมเมอร์เกิดขึ้นในช่วงโควิดที่ผ่านมา ตามรายงานของ UNODP ของสหประชาชาติ พบว่ารอบประเทศไทยเป็นแหล่งของสแกมเมอร์ ซึ่งไทยเองยังไม่มีชื่อ และต้องพยายามกันตัวเองเป็นพยาน ซึ่งสแกมเมอร์มีหลักการคือ หลอกคนทั่วโลก ด้วยคนประเทศตัวเอง ถ้าเป็นคนไทย ก็จะใช้คนไทยมาหลอก แล้วก็จะไปเข้าระบบคริปโต และนำมาซื้อข้าวของในบริษัทของไทย เรื่องนี้สังเกตง่ายๆ ว่าใครยอมขาดทุน เช่นไปประมูลงานของรัฐในราคาที่ไม่มีใครสู้ได้เลย เมื่อได้มา ก็นำคนจากประเทศคุณมา นำวัสดุจากประเทศคุณมา ผลที่ออกมาบางตึกมันก็อาจจะถล่มได้ แต่เชื่อเถอะทุกคนหลุดหมด ซึ่งเรื่องนี้มีอะไรที่แปลกๆ ซึ่งตอนนี้สแกมเมอร์มันอยู่ในประเทศไทยแล้ว ไม่ใช่กัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย เพื่อเอาเงินขึ้นมาบนโต๊ะ ดังนั้นเราจะเป็นปลายทาง แต่ต่อไปไทยคงเป็นหนึ่งในอาชญากรรมข้ามชาติแน่ๆ ถ้าไม่เตรียมตัวให้ดี ถ้าไม่อยากย้ายจากผู้เสียหายไปเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
พล.ท.พงศกร เผยต่อว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวว่ามีการนำเงินประเภทนี้ไปติดต่อบางคน ซึ่งกรรมาธิการความมั่นคงก็ตามอยู่ว่า คนๆนี้ จะจัดการขบวนการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ แล้วการซื้อหุ้นนั้นเป็นหุ้นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย เพราะฉะนั้นหุ้นเหล่านี้ก็จะอยู่ในมือเขาหมด ยิ่งแพง ยิ่งดี ยิ่งขาดทุนยิ่งชอบ ปริมาณเงินที่นำมาฟอกมหาศาลมาก
...
พล.ท.พงศกร เผยถึงกลุ่มมหาอำนาจที่เข้ามาขยับเรื่องสแกมเมอร์ตอนนี้ว่า เป็นเพราะสถานการณ์ชายแดนที่เกิดขึ้น ทำให้มหาอำนาจขยับ สหรัฐฯขยับเข้ามาเรื่องฟอกเงิน ส่วนจีนซึ่งปราบอยู่แล้วเป็นระลอก แต่ยังเบา ส่วนจะเกี่ยวกับการเมืองอย่างไร ถ้าจะคุ้มครองผลประโยชน์ของคุณต้องใช้การเมือง ยกตัวอย่าง ของกลางของการคุ้มครองผู้บริโภคหาย เราไม่สงสัยหรือว่า หายเป็นหมื่นชิ้นได้อย่างไรในการเก็บของระบบราชการ นี่คือประเด็นเดียวที่เห็นภาพ แล้วต่อไป บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ออกมาแก้ตัวว่าไม่เกี่ยวกับทุนเทา เพราะว่าทุนเทาจะพยายามจัดกิจการร่วมค้า ใช้ชื่อบริษัทที่ดี แต่สภาพคล่องไม่ดี จากนั้นก็นำเงินมาให้ไปบิดของที่ไม่ควรจะบิดในราคาที่ต่ำมาก
อดีตประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ เผยต่อด้วยว่า แก๊งสแกมเมอร์ในบ้านเราเป็นขบวนการใหญ่ ที่แยกเรื่องเป็นกลุ่มๆ อย่างเรื่องที่เขาฟ้องบัญชีม้า ฉ้อโกง ความผิดไม่เกิน 3 ปี ซึ่งคนหลอกลวงมักอยู่ต่างประเทศ เซิร์ฟเวอร์อยู่ต่างประเทศ แล้วเอาเงินมาหมุนในประเทศไทย โดยระบบบัญชีม้า นี่คืออาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีความผิดมากกว่า ถามง่ายๆ ว่าทำไมไม่ตั้งข้อหานั้น ที่จะเอาผิดหรือยึดทรัพย์ได้ แต่กลับไปตั้งข้อหาฉ้อโกง ทำไมไม่ตั้งเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ แล้วแต่ละหน่วยงานก็มีกำแพงของตัวเอง เหมือนว่าอย่ามายุ่งกับผมนะ วิธีการง่ายนิดเดียว นำหน่วยงานต่างๆ มาประชุมร่วมกันเป็น "ทีม" แล้วให้ ปปง. เช็กเส้นเงิน แล้วไปสะกิดให้ตำรวจ หรือดีเอสไอ เป็นคนแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีต่อ โดยเล่นจากด้านบนเลย ตอนนี้หลายคนก็เริ่มรู้แล้วว่า เรื่องแก๊งสแกมเมอร์ของไทยมันใหญ่มาก ซึ่งต้องเริ่มทำอะไรสักอย่าง นั่นแปลว่าที่ผ่านมาไม่ค่อยขยับ ไม่งั้นจะไปกันหมดทั้งประเทศ
เมื่อถามว่ามีความคิดเห็นต่อองค์กรตำรวจอย่างไรบ้าง หลัง "บิ๊กโจ๊ก" ออกมาให้สัมภาษณ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ เผยว่า วันนี้มีประเด็น แต่ขอพูดนิดนึงว่า มีเรื่องของ "รองโจ๊ก" เรื่องเอาข้อสอบไป มันเป็นเหมือนเรื่องโอละพ่อ พูดแค่นี้ก่อน มีกลิ่นว่าจะกลั่นแกล้งไหมนิดหน่อย ซึ่งก่อนหน้ามีการไปค้นบ้านรองโจ๊ก แต่สุดท้ายไปไม่ถึง ก็เลยวุ่น ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่รองโจ๊กไปเล่นคืนประมาณ 200 คน จะยังไง แต่ก็เป็นเรื่องกลไกของกฎหมาย ซึ่งบัดนี้ยังไม่ชัดเจน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องแสดงความจริงใจในการสอบสวน
ส่วนคำที่ ผบ.ตร. ระบุว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เราถูกพายุโหมกระหน่ำ โจมตีเรื่องภาพลักษณ์ที่ถูกกล่าวหาจากบุคคลภายนอก ผมขอย้ำว่าจากบุคคลภายนอกที่กล่าวหาว่าตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ในประเทศไทย ขีดเส้นใต้ครับ เป็นองค์กร นั่นหมายความว่าเป็นการกล่าวหาตำรวจทั้งประเทศ และเป็นการกล่าวหาสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่รุนแรงมาก รู้สึกอย่างไรครับ เจ็บปวดครับ ผมอดทน ตั้งสติ และทำงานมาจากการถูกโจมตีมาโดยตลอด แต่การกล่าวหาอย่างรุนแรงเช่นนี้ ผมเชื่อว่าตำรวจทั้งประเทศรับไม่ได้นั้น พล.ท.พงศกร มองว่า มันไม่ใช่ตำรวจทั้งประเทศหรอก ตนเชื่อว่าส่วนใหญ่ก็ใช้ได้อยู่ แต่ตำรวจที่อยู่ในวงจรของอาชญากรก็คงมี แต่ถ้าตำรวจพบเหตุ ยืนยันว่าต้องดำเนินการ อย่างเรื่องตำรวจ 200 คน ดำเนินการสอบสวนได้เลย ถ้ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ เป็นอาญาแล้ว ตั้งเป็นฐานความผิดได้ เราต้องดำเนินการตำรวจส่วนน้อยที่ถูกพาดพิง เพื่อให้ตำรวจส่วนใหญ่อยู่รอด ถึงจะถูก
พล.ท.พงศกร เผยด้วยว่า ตอนนี้เริ่มมีการขุดเรื่องบริษัทต่างๆ ที่เป็นกิจการร่วมค้าที่ไปเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ดังนั้นวิธีการที่จะทำให้ปลอดภัยมากที่สุดคือ ต้องได้อำนาจรัฐเป็นผู้คุ้มครอง ไม่ต่างกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ตนเชื่อโดยสุจริตใจว่า เลือกตั้งคราวหน้า ถูกลอตเตอรี่ จะได้เงินซื้อเสียงไม่ต่ำกว่าคนละ 5,000 บาท นั่นเท่ากับว่าสีเทาจะอยู่ในประเทศ ไทยจะเปลี่ยนจากประเทศที่เป็นเหยื่อ เป็นเป้าหมายที่ทั่วโลกต้องจัดการ
เมื่อถามถึงความน่ากลัวของทุนเทา พล.ท.พงศกร เผยว่า ก่อนหน้าไทยพบการทุจริตในวงของเราเอง แต่นี่เป็นทุนที่ใหญ่มาก มหาศาล จะกวาดธุรกิจไทยหายหมด ซึ่งที่ผ่านมาเราต้อนรับทุนประเภทนี้ ทุนที่เป็นทุนศูนย์เหรียญ เมื่อเข้ามาในไทย จากนั้นเขาก็เปลี่ยนไปทำอาชญากรรม คราวนี้ก็ไหลเข้ามาในไทยทันที ซึ่งเขาสามารถซื้อประเทศได้ แล้วคนไทยจะอยู่ตรงไหน ซึ่งเงินทุนที่มหาศาลเหล่านี้ เราสู้ไม่ได้
...
เมื่อถามว่า มองท่าทีของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี อย่างไร พล.ท.พงศกร ระบุว่า ยังโอเค แต่ไม่เฉียบขาดเท่าที่ควร เพราะทุกอย่างทำตามสเต็ป มีการจับมือกับหลายประเทศ พร้อมประกาศว่าเราจะเป็นเจ้าภาพในการแก้ปัญหาเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ และฝ่ายการเมืองต้องจี้ลงไปว่าให้จัดการให้หมด อย่าให้เหลือ เจอใครฟาดให้หมด เพื่อประชาชนคนไทย เพราะถ้าลุยตรงนี้ได้ ประชาชนรู้สึกว่าปลอดภัย การเลือกตั้งคราวนี้คุณยังมีโอกาส แต่ตอนนี้ประชาชนอาจจะยังไม่เชื่อว่าคุณจะทำจริง คราวหน้าก็อาจจะไม่เลือกก็ได้ เพราะเป็นความเสี่ยงที่กลุ่มเหล่านี้จะกลับมา ดังนั้น ต้องฟัน ต้องเร่ง
ติดตามทั้งหมดเหล่านี้ได้ทาง Newsroom Special Series Ep.2 ทางไทยรัฐทีวีช่อง 32
...