ตม.สุราษฎร์ธานี ร่วมสืบภาค 8 และปส.ตามรวบหนุ่มรัสเซียเครือข่ายติดสติกเกอร์ค้ายาเสพติดออนไลน์ หนีหมายจับศาลภูเก็ตกบดานเกาะสมุย สารภาพได้รับค่าตอบแทนสติกเกอร์ 1 ใบ ต่อ 1 ดอลลาร์


สืบเนื่องเมื่อวันที่ 5 พ.ย.68 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตได้มีการประสานไป พล.ต.ต.ธีระ ทองระยับ ผบก.ปส.4 พ.ต.อ.กันตวัฒน์ พงศ์สถาบดี รอง ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.8 และ พ.ต.อ.นฤวัต พุทธวิโร ผกก.ตม.จว. สุราษฎร์ธานี หลังพบข้อมูลและเบาะแสว่าผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติที่เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดออนไลน์ที่มีการนำสติกเกอร์ไปติดตามเสาไฟฟ้าและตามสถานที่สาธารณะต่างๆในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งได้รับการแจ้งข้อมูลจากนายเฉลิมพงศ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จ.ภูเก็ต พรรคประชาชน เมื่อวันที่ 4 พ.ย.68 ที่ผ่านมา (อ่านข่าว : เตือนภัย "ยาเสพติด" รูปแบบใหม่ระบาดในภูเก็ต ติดสติกเกอร์ QR Code ซื้อขายโจ๋งครึ่ม)

...

จนกระทั่ง สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เสนอต่อศาลจังหวัดภูเก็ตอนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 68 โดยผู้ต้องหาคือ นายเซเมียน สัญชาติรัสเซีย ในข้อหาเป็นผู้โฆษณาเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้หลบหนีไปยังพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ก่อนมีการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเสนอต่อศาลจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเลได้สแกนคิวอาร์โค้ดที่ปรากฏในแผ่นสติกเกอร์ที่ผู้ต้องหาได้นำไปติดไว้ตามตู้ไฟและเสาไฟในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พบเป็นลิงก์เว็บไซต์ เมื่อเข้าไปในเว็บไซต์ พบเป็นภาพหญิงสาวยืนถือถุงบรรจุผงสีขาวลักษณะคล้ายยาเสพติดประเภทโคเคน

และปรากฏลิงก์เสนอขายยาเสพติดประเภทต่างๆ อยู่ในทางเว็บไซต์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลบุคคลตามภาพที่ปรากฏในเฟซบุ๊ก พบว่าชายดังกล่าวชื่อ นายเซเมียน อายุ 27 ปี สัญชาติรัสเซีย จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดภูเก็ตในข้อหาดังกล่าว พร้อมกับประสาน ตม.จว.สุราษฎร์ธานีและชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 และ ปส.ออกติดตามตัว

จนกระทั่งสืบทราบจากระบบการแจ้งที่พักของระบบไบโอเมตริก สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่า นายเซเมียน ได้เดินทางหลบหนีออกจาก จ.ภูเก็ตไปกบดานอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.68 จึงได้เข้าตรวจสอบและจับกุมตัวขณะที่ผู้ต้องหากำลังนั่งอยู่บริเวณหน้าห้องพัก โดยมีอาการระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งหลบหนีออกทางหลังโรงแรมที่พัก เจ้าหน้าที่ได้วิ่งไล่ตาม จนนายเซเมียนจนมุมเจ้าหน้าที่ในที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับให้ทราบ และนำตัวไปค้นห้องพัก พบหลักฐานสติกเกอร์ที่ใช้โฆษณาให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงการซื้อขายยาเสพติดผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวจำนวนมากอยู่ในลิ้นชักในห้องพักของโรงแรมที่นายเซเมียนเข้าพัก และยังพบภาพถ่ายในโทรศัพท์ของนายเซเมียน ถ่ายการติดภาพสติกเกอร์ไว้เพื่อรายงานผู้ว่าจ้างจำนวนมาก จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางและแจ้งข้อกล่าวหา จากนั้นได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเลเจ้าของคดี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


จากการสอบถาม นายเซเมียน ให้การว่า ตนได้รับการติดต่อกับชายชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นแอดมินของเว็บไซต์และปกปิดตัวตนผ่านกลุ่มแชตในตลาดมืดของแอปพลิเคชันเทเลแกรม ที่ได้รับความนิยมของกลุ่มคนรัสเซียให้นำสติกเกอร์ไปติดโฆษณาตามสถานที่ต่างๆ หรือ ตามเสาไฟฟ้า โดยทางแอดมินของกลุ่มแชตได้ส่งสติกเกอร์มาให้ตนผ่านตัวแทนขนส่ง

โดยเมื่อรับสติกเกอร์มาแล้ว ตนเองจะนำไปติดตามที่ต่างๆ โดยได้รับค่าตอบแทนสติกเกอร์ 1 ใบ ต่อ 1 ดอลลาร์ (USDT) โดยจะมีการจ่ายเงินค่าจ้างผ่านกระเป๋าเงินคริปโตของนายเซเมียน ทำมาแล้ว 3 วัน ได้เงินจำนวน 300 ดอลลาร์ (USDT) แต่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ โดยคาดว่านายเซเมียน น่าจะเป็นหนึ่งในขบวนการขายยาเสพติดออนไลน์ ซึ่งชุดจับกุมจะได้ขยายผลให้ถึงขบวนการต่อไป.