ตชด.จับ "กำนันทร" คนดังชุมพร อ้างจะขอข้ามแดนไปทอดกฐิน โทร.ขออนุญาตแล้ว แต่โดนห้าม ด่ากราดเจ้าหน้าที่ ไม่สนฝ่าฝืนยกเครื่องกีดขวางขับรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักร ขากลับโดนล็อคพร้อมพวกและต่างด้าวกว่า 30 คน โดนแจ้ง 5 ข้อหาหนัก ยังให้การปฏิเสธ

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 กำลังเจ้าหน้าที่กองร้อย ตชด.414 ค่ายอาภากรณ์เกียรติวงศ์ ได้ควบคุมตัว นายสุนทร น้อยราช หรือ "กำนันทร" กำนันคนดังตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ผู้ต้องหาถูกจับกุมคดี (1.)ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ (2.)ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายให้ไว้ (3.)เป็นเจ้าของหรือผู้ควบคุมยานพาหนะ นำพาหนะเข้ามาหรือออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่า สถานี หรือท้องที่ ตามประกาศกำหนด มาตรา 23 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง (4.)เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง และผ่านการตรวจของเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 62 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง (5.)ร่วมกันนำพาคนต่างด้าว เข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำการด้วยประการใด ๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ตามมาตรา 62 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พร้อมของกลางรถยนต์กระบะโตโยต้าสี่ประตูสีขาว ทะเบียน ขจ.8950 สุราษฎร์ธานี ที่ทาง "กำนันทร" ใช้ขับเข้าออกนอกราชอาณาจักร

ผู้ต้องหาที่ 2 นายเหมืองเพ็ชร์ หรือเพ็ชร์ แก้วเล่อ อายุ 47 ปี ชาว อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาถูกจับคดี นำพาต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นการอุปการะช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่ชาวต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง

พร้อมของกลางรถยนต์โตโยต้า ตอนเดียว สีขาวติดกรงเหล็ก ทะเบียน บว.7524 ชุมพร ที่ใช้บรรทุกต่างด้าวชาวเมียนมา แยกเป็นผู้ใหญ่ เพศหญิง จำนวน 15 คน และผู้ติดตามเป็นเด็กเล็กชายและหญิงจำนวน 21 คน รวมเป็นชาวต่างด้าวทั้งหมด 36 คน

นอกจากนั้นในเหตุการณ์จับกุมดังกล่าวยังมีผู้ต้องหาคนไทยอีก 8 คน ถูกจับดำเนินคดีในข้อหาเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง และผ่านการตรวจของเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 62 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ประกอบด้วย (1) นายอำนวยชัย ดิพิมาย อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร (2)นายบรรจบ แก้วขาว อายุ 54 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ตำบลรับร่อ (3)นางสาวมณีกาญจน์ สมรูป อายุ 39 ปี (4)นางสาวสุปราณี คัทมาร อายุ 39 ปี (5)นายชัยวัฒน์ เรืองคง อายุ 58 ปี (6)นางกนกวรรณ จอมพลแสบ อายุ 61 ปี (7)นางแสงกูล ศรีเมือง อายุ 63 ปี (8)นายภาสกร ชูพัฒนพงศ์ อายุ 22 ปี ทั้งหมดเป็นชาวบ้านหมู่ 10 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร

...




ทั้งนี้พฤติกรรมการจับกุมสืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ ตชด.ประจำชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4102 ช่องหินดาษ ชายแดนไทย-เมียนมา หมู่ที่ 10 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พบว่าเมื่อวันที่ 2 พ.ย.68 เวลาประมาณ 10.00 น.ได้มีรถกระบะ ทะเบียน ขจ-8950 สุราษฎร์ธานี วิ่งมาที่บริเวณไม้กั้นจุดตรวจชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งขณะนั้นมี ร.ต.ท.สุวรรณชัย ปริวัฒน์ รอง สว.(ป) กก.ตชด.41, ส.ต.ต.ภาณุพงศ์ ทาระการ และ ส.ต.ท.พงษ์นเรศ เรือนสังข์ ผบ.หมู่ กก.41 ได้เข้าเวรประจำจุดตรวจไม้กั้นอยู่

จากนั้นคนขับรถคันดังกล่าวได้ลงมาจากรถ คือ นายสุนทร น้อยราช เป็นกำนันตำบลรับร่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่จดจำได้ดี โดยนายสุนทรได้ลงมาเพื่อจะขอออกไปนอกราชอาณาจักร พร้อมกับพวกอีก 2 คน แต่ ร.ต.ท.สุวรรณชัย ได้แจ้งว่า "ผมไม่มีอำนาจให้ออกไปนอกราชอาณาจักรได้" นายสุนทรจึงได้เดินขึ้นไปบนฐาน ตชด. ที่อยู่ด้านบน เพื่อไปพบกับ ร.ต.อ.วัฒนา รัญจุล รอง สว.(ป)กก.ตชด.41 ซึ่งเป็น หน.ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4102

จากนั้นเมื่อได้พบกับ ร.ต.อ.วัฒนาแล้ว ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปนอกราชอาณาจักรได้ นายสุนทรจึงได้พูดด่า ร.ต.อ.วัฒนา ด้วยคำหยาบคายต่าง ๆ แล้วนายสุนทรได้เดินลงมายกไม้กั้นตรงแนวชายแดนออกและได้ขับรถออกไปนอกราชอาณาจักร โดยไม่สนคำสั่งห้ามของเจ้าหน้าที่

โดยก่อนหน้าที่นายสุนทร น้อยราช จะขับรถมาถึงจุดตรวจไม้กั้นประมาณ 5 นาทีนั้น ได้มีนายเหมืองเพ็ชร์ แก้วเล่อ ซึ่งทราบชื่อ ภายหลัง ได้ขับรถกระบะรั้วยกสูง ทะเบียน บว-7524 ชุมพร มาจอดรอนายสุนทรอยู่หลังไม้กั้นตรงแนวชายแดนประมาณ 50 เมตร เมื่อรถนายสุนทรมาถึงนายเหมืองเพ็ชร์ ได้ลงมาพาคนที่มากับรถอีกคัน ซึ่งตามหลังรถนายสุนทรมา มีประมาณ 13 คน ขึ้นรถของนายเหมืองเพ็ชร์เพื่อออกไปนอกราชอาณาจักร โดยส่วนใหญ่ใส่เสื้อลายสีเดียวกันลักษณะเป็นเสื้อทีม เขียนว่า "บุญกฐิน 2568" ซึ่งนายเหมืองเพ็ชร์ และนายสุนทรก็ใส่เสื้อดังกล่าวเหมือนกัน ลักษณะเป็นการนัดแนะกันมาเพื่อจะออกไปนอกราชอาณาจักร จากนั้นนายเหมืองเพ็ชร์ ได้ขับรถยนต์บรรทุกคนไปนอกราชอาณาจักร โดยมีนายสุนทร ขับรถตามไปติด ๆ

ต่อมาในวันเดียวกันเวลาประมาณ 14.30 น.ได้มีรถกระบะจำนวน 2 คัน ในลักษณะขับตามกันมาจากฝั่งประเทศเมียนมา มาจอดบริเวณไม้กั้นจุดตรวจชายแดนที่ 4102 ช่องหินดาด ชายแดนไทย-เมียนมา หมู่ที่ 10 ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ประจำอยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งนายสุนทร น้อยราช เป็นคนขับรถกระบะคันแรก ทะเบียน ขจ-8950 สุราษฎร์ธานี มาจอดที่บริเวณไม้กั้นตรงแนวชายแดน จากนั้นนายสุนทรก็ลงจากรถเพื่อจะเดินมาเปิดไม้กั้นตรงแนวชายแดนออก ระหว่างนั้น นายเหมืองเพ็ชร์ แก้วเล่อ ได้ขับรถกระบะ ทะเบียน บว-7524 ชุมพร มาจอดต่อท้ายรถกระบะ ที่นายสุนทรขับนำมา เจ้าหน้าที่ ตชด.จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบและจับกุม ก่อนการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผู้ถูกจับดูแล้ว

จากนั้นจึงได้ทำการตรวจสอบพบว่า บนรถกระบะคันแรก มีนายสุนทร น้อยราช ผู้ถูกจับเป็นคนขับ และมีผู้โดยสารบนรถอีก 8 คน ซึ่งพบว่าเป็นคนไทยทั้งหมด ได้เดินทางมาจากประเทศเมียนมาโดยไม่ผ่านช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมืองตามที่ประกาศกำหนด จากนั้นได้ทำการตรวจสอบรถกระบะคันที่ 2 ซึ่งขับตามมาพบว่ามี นายเหมืองเพ็ชร์ แก้วเล่อ เป็นคนขับและมีคนต่างด้าว ซึ่งไม่มีเอกสารประจำตัวอยู่บนรถทั้งสิ้น 36 คน โดยเป็นผู้ใหญ่ 15 คน เป็นผู้ติดตาม 21 คน

จากการสอบถามนายเหมืองเพ็ชร์ แก้วเล่อ ขณะจับกุม ให้การว่าเป็นลูกน้องของนายสุนทร น้อยราช กำนันตำบลรับร่อ ซึ่งได้นัดแนะกันเพื่อไปงานกฐินในฝั่งประเทศเมียนมา โดยจากการตรวจสอบภาพในโทรศัพท์ของนายเหมืองเพ็ชร์ด้วยความสมัครใจ พบภาพร่วมงานกฐินของนายสุนทร น้อยราชและนายเหมืองเพ็ชร์ นอกราชอาณาจักรไทย

ขณะที่ พ.ต.อ.จริพัฒน์ ทองแดง ผกก.ตชด.41 ค่ายอาภากรณ์เกียรติวงศ์ พ.ต.ท.สันติ มณีรัตน์ สว.ตม.จว.ชุมพร ได้เดินทางมาสอบปากคำ นายเหมืองเพ็ชร์ แก้วเล่อ โดยนายเหมืองเพ็ชร์ บอกว่าตนเองได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร พร้อมด้วยแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอยู่ในพื้นที่อำเภอท่าแซะอยู่แล้ว เพื่อไปทำบุญทอดกฐินที่วัดยัวเฮลู ซึ่งเป็นวัดชาวกะเหรี่ยงร่วมกับ นายสุนทร น้อยราช กำนันตำบลรับร่อ เนื่องจากตนเป็นลูกน้องมาทำงานอยู่กับกำนันสุนทรนาน 3 ปีแล้ว

ด้านนายสุนทร น้อยราช กำนันตำบลรับร่อ บอกว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตนได้เดินทางไปเชื่อมความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกะเหรี่ยง และเมียนมาเป็นประจำ เพื่อเก็บข้อมูลหาข่าวด้านความมั่นคง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของทางจังหวัดและอำเภอที่มีการแจ้งในที่ประชุมทุกครั้งอยู่แล้ว และตนก็ได้โทรศัพท์ขออนุญาตทั้งฝ่ายทหารและผู้เกี่ยวข้องก่อนเดินทางออกไปด้วยแล้ว ซึ่งก็ถือว่าเป็นการกระทำที่เข้าออกเป็นปกติ และการเดินทางไปครั้งนี้ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชุดของ นายเหมืองเพ็ชร์ แก้วเล่อ แต่อย่างใด ซึ่งรถที่ตนขับไปและกลับก็มีแต่คนไทยทั้งหมด 8 คน มีทั้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน เพื่อไปทอดกฐินตามภารกิจที่ตนกล่าวข้างต้นเท่านั้น แต่ครั้งนี้ที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นเป็นเพราะตนไปมีปากเสียงกันกับเจ้าหน้าที่ ตชด.หัวหน้าด่านชุดตรวจชายแดน จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตนถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม




ด้านนางมุก ชาวเมียนมา กล่าวว่า ตนพร้อมกับเพื่อน ๆ ต่างด้าวกว่า 10 คน เพิ่งจะเดินทางข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อไปทอดกฐินที่วัดกะเหรี่ยงฝั่งเมียนมา เมื่อวันที่ 1 พ.ย.68 ที่ผ่านมา โดยต้องเดินเท้าเข้าลึกเข้าไปฝั่งเมียนมาประมาณ 4 ชั่วโมง และวันที่ 2 พ.ย.พวกตนก็เดินทางกลับพร้อมกับชุดทีมของกำนันสุนทร จนมาถูกจับดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ นายสุนทร น้อยราช หรือ "กำนันทร" เป็นบุคคลมีชื่อเสียงที่รู้จักกันกว้างขวางในจังหวัดชุมพร โดยข้อกล่าวหาทั้ง 5 ข้อกล่าวหา "กำนันทร" รับสารภาพเพียงข้อหาเดียว คือ เข้าออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาต ส่วนข้อหาอื่น ๆ ให้การปฏิเสธ ขณะที่ผู้ต้องหาคนอื่น ๆ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา.

...