บุกทลายรังคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน เช่าพูลวิลล่าหรูติดแม่น้ำปิง หลัง 90 ล้าน ใน จ.เชียงใหม่ เป็นฐานหลอกคนจีนด้วยกันเอง จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 20 ราย หลบหนีอีกเกือบ 10 ราย เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ตุลาคม 2568 พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำกำลังชุดสืบสวนภาค 5 และตำรวจ PCT ภาค 5 บุกเข้าจับกุมเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ภายในบ้านหรูหลังหนึ่งใน ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังจากได้รับรายงานว่าบ้านหลังดังกล่าวได้ตั้งเป็นฐานคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน หลอกคนจีนด้วยกันเอง โดยเช่าพูลวิลล่าหรูติดแม่น้ำปิง มีบ้านแบ่งย่อยเป็นหลังๆออกจากหลังใหญ่ไปอีก 3 หลัง
จากการปิดล้อมตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนทั้งหมด 20 คน ผู้ชาย 14 คน เป็นหญิง 6 คน (มีผู้ต้องหาเป็นหญิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย แขนหักขณะพยายามหลบหนี)
นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาวิ่งหลบหนีลงแม่น้ำปิงและวิ่งเข้าป่าไปได้ 10 กว่าราย เนื่องจากภายในบ้านพักได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดคอยดูความเคลื่อนไหวของตำรวจ เมื่อเห็นตำรวจจึงได้วิ่งหลบหนีกันจ้าละหวั่น บางรายหลบหนีไม่พ้นก็จะมีร่องรอยคราบเลือดรอยขูดขีดแบบที่เห็น ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
...
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ 100 กว่าเครื่อง พร้อมซิมโทรศัพท์จีนจำนวนมาก รวมถึงแพลตฟอร์มในการพูดคุยโทรไปหลอกเหยื่อ
พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภาค 5 กล่าวว่า สำหรับกลุ่มขบวนการเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์กลุ่มเดียวกันกับที่ทางตำรวจ PCT ภาค 5 ได้จับกุมก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ที่ ต.บ้านแหวน อ.หางดง และครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ที่พูลวิลล่าในบ้านหนองปลามัน ต.ห้วยทราย อ.แม่ริม
หลังตำรวจได้บุกทลายรัง ทางบอสจีนก็ได้ย้ายฐานจัดหาคนจีนให้มาเช่าที่นี่เพื่อเป็นฐานหลอกคนจีนด้วยกันอีก ซึ่งจากการสอบถามผู้ต้องหาที่จับกุม ทราบว่าได้มาเช่าอาศัยที่พูลวิลล่าแห่งนี้เป็นเวลา 2 เดือนแล้วโดยบอสจีนเป็นผู้เช่า เดือนละ 1 แสน 2 หมื่นบาท ส่วนพวกตนนั้นมีหน้าที่เป็นคอลเซ็นเตอร์โทรไปหลอกคนจีนที่ประเทศจีน
โดยการหลอกก็จะเป็นการหลอกลักษณะเดิมๆ คือหลอกส่งพัสดุ และหลอกลวงทำประกันชีวิต ซึ่งก็จะมีเหยื่อชาวจีนหลงเชื่อ โดยทางบอสชาวจีนได้จัดให้พวกตนเดินทางมาจากประเทศจีนโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวและวีซ่านักศึกษา และจะให้ทำงานตั้งแต่เวลา 9.00 น. ถึง 22.00 น. โดยผู้ต้องหาแต่ละคนจะได้ค่าจ้างคนละ 100,000 – 200,000 บาทต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม หลังจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ทางตำรวจจะขยายผลหาเครือข่ายที่ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไปและจะประสานกงสุลจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ให้เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดนี้เบื้องต้นตำรวจจะตั้งข้อหา อั้งยี่ซ่องโจร/ ข้อหาฉ้อโกง ก่อนจะนำผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป หลังจากรับโทษในประเทศไทยเสร็จก็จะส่งกลับไปรับโทษที่ประเทศจีนต่อไป.
...