รองจเรตำรวจแห่งชาติรับข้อมูลคนหาย ที่ถูกหลอกลวงไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์ ประเทศเพื่อนบ้าน จากมูลนิธิกระจกเงา พบปี 2568 มีคนหายกว่า 119 ราย อายุตั้งแต่ 15 - 65 ปี
สืบเนื่องจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามแต่งตั้ง "คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี" ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 341/2568 โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ร่วมเป็นคณะกรรมการ โดยมี พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอส.ตร.), พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ/รอง ผอ.ศปอส.ตร. ร่วมขับเคลื่อนการทำงาน เพื่อยกระดับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อน รูปแบบหลากหลาย และเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม 2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ป้องกันการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้รับมอบหนังสือจากมูลนิธิกระจกเงา โดย นางสาวกนกวรรณ พูลเพิ่ม รองหัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา และ นางสาวศิริพร ติวสร้อย หัวหน้าเวรรับแจ้งเหตุคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ในเรื่องของข้อมูลคนหายที่พบว่าถูกหลอกลวงไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์ ที่ประเทศเพื่อนบ้าน
โดยตลอดปี 2568 มูลนิธิกระจกเงารับแจ้งคนหายที่ถูกพาไปเป็นสแกมเมอร์ยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเปิดบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งหลอกให้ลงทุน กว่า 119 ราย อายุเฉลี่ย 26 ปี โดยในจำนวนนี้เป็นชาย 73 ราย หญิง 46 ราย รวมทั้งมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีถึง 18 ราย อายุน้อยสุดเพียง 15 ปีและผู้สูงอายุมากสุด 65 ปี
...
นางสาวกนกวรรณ พูลเพิ่ม รองหัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้แม้มีการปิดชายแดนกัมพูชา แต่ยังมีการหลั่งไหลของคนไทยที่ถูกหลอกชักชวนไปทำงาน เมื่อข้ามแดนไปแล้วถูกกักขังในสถานที่ปิด ยากที่จะหลบหนี หากไม่ยอมทำงานอาจไม่ปลอดภัยหรือถูกส่งไปที่อื่น โดยขณะนี้มีคนหายที่มูลนิธิกระจกเงารับแจ้งเหตุ อีก 25 ราย ที่ยังไม่ได้กลับประเทศไทย และกำลังรอความช่วยเหลือ โดยในวันนี้ได้ยื่นหนังสือให้ทางคณะอนุกรรมการฯ ได้ทราบข้อเท็จจริงและติดตามกรณีเด็กหญิง 16 ปี ถูกชักชวนให้ทำงานในโลกออนไลน์ แต่ถูกหลอกพาไปทำงานสแกมเมอร์ยังประเทศเพื่อนบ้าน และต้องการให้อนุกรรมการประชาสัมพันธ์ป้องกันการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ช่วยติดตามคนไทยที่ยังติดอยู่ในแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติกลับมายังประเทศไทย และขอให้เร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้คนหางานได้รู้เท่าทันประกาศในโลกออนไลน์ ที่มีนายหน้าไปโพสต์รับสมัครงานแต่ท้ายสุดถูกหลอกพาไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ โดยควรบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มนายหน้าหลอกคนซึ่งน่าจะก่อเหตุอยู่ภายในประเทศด้วย
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า จะนำข้อมูลคนหายที่ได้รับจากมูลนิธิกระจกเงานี้ไปดำเนินการต่อในการติดตาม ช่วยเหลือ พร้อมขอเตือนคนไทยอย่าตกไปเป็นเหยื่อทำงานให้กับแก๊งสแกมเมอร์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หากพบเห็นประกาศรับสมัครงานที่มีการอ้างให้เงินเดือนดี มีที่พักสบาย และมีการนัดหมายในจังหวัดตามแนวชายแดน ขอให้อย่าหลงเชื่ออย่างเด็ดขาด เพราะมีแนวโน้มสูงว่าจะถูกหลอกไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน และหากใครหลงเชื่อขอให้กลับใจ มาแจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะได้เป็นเบาะแสในการกวาดล้างจับกุมต่อไป
นอกจากนี้ หากมีบุคคลสูญหายและมีข้อมูลบ่งชี้ว่าถูกหลอกลวงไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์ประเทศเพื่อนบ้าน ขอให้แจ้งมาได้ที่สายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 หรือมูลนิธิกระจกเงา หมายเลขโทรศัพท์ 080-7752673 ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะนำเข้าคณะอนุกรรมการฯ เพื่อขับเคลื่อนการประสานงานกันอย่างเป็นระบบ เพื่อเร่งรัดช่วยเหลือเหยื่อทั้งหมดกลับประเทศไทย