พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รอง ผบช.สอท. ยันไม่ได้ทำงานล่าช้า ตามที่ "รังสิมันต์ โรม" กล่าวพาดพิง กรณีการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ พร้อมชี้แจงปม "เบน สมิท" หลังไม่พบข้อมูลในสารบบของไซเบอร์
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ตุลาคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รอง ผบช.สอท. เผยถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน แถลง ”road map“ การปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ ซึ่งมีบางช่วงพาดพิงถึงการทำงานของตำรวจไซเบอร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ายังทำงานล่าช้าและมีอุปสรรคปัญหาในเรื่องข้อกฎหมาย ว่า การทำงานของตำรวจไซเบอร์รวดเร็วหรือไม่ ซึ่งทางสื่อมวลชนและประชาชนทราบดีอยู่แล้ว การจับกุมก็มีเป็นจำนวนมากเห็นได้จากการแถลงข่าวผลการจับกุมมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งการที่นายรังสิมันต์ กล่าวพาดพิงก็พร้อมรับฟัง ซึ่งผู้ที่จะตัดสินคือสื่อมวลชนและประชาชนเอง
...
เมื่อสื่อมวลชนสอบถามว่า การที่มีผลจับกุมเยอะแต่มีปัญหาเรื่องการดำเนินคดีกับตัวผู้ต้องหา หรือไม่ รอง ผบช.ไซเบอร์ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ขอชี้แจงว่า ตลอด 3 ปี 6 เดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียหาย 1 ล้านเคส ID มีความเสียหายกว่า 100,000 ล้านบาท ระงับเงินได้ทัน 10,000 ล้านบาท ตำรวจไซเบอร์เน้นการป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อ แต่บุคคลภายนอกอาจอยากให้เน้นเรื่องการปราบปราม แต่สิ่งที่ชาวบ้านต้องการจริงๆคือการต้องการเงินคืน ไม่ใช่การจับกุม
ซึ่งที่ผ่านมามีนโยบายเชิงรุกหลายอย่าง ทั้งเรื่องการคืนเงินได้เร็ว และเรื่องการระงับบัญชีธุรกรรมการเงิน แต่ก็ยอมรับว่าได้รับผลกระทบกับประชาชน ยืนยันว่ากองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ไม่ได้หยุดนิ่ง ซึ่งมีข้อเท็จจริงเห็นได้ทุกวัน สามารถฟังได้เห็นได้เองทุกคน ส่วนเลขคดีเยอะสำนวนเยอะเป็นเพราะมีสำนวนคดีกว่า 1 ล้านเคส ID ต้องประสานจากหลายหน่วยงาน บางบริษัทบางหน่วยงานไม่สามารถสั่งการได้ต้องเป็นการขอความร่วมมือ ซึ่งตอนนี้ทางธนาคาร และ กสทช.ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า นายรังสิมันต์ โรมบอกว่า ข้อกฎหมายบางอย่างเป็นอุปสรรคในการทำงานของตำรวจหรือไม่ รอง ผบช.ไซเบอร์ กล่าวว่า ในส่วนนี้ก็ต้องยอมรับว่าบางส่วนมีผลต่อการทำงานของตำรวจ แต่บางข้อกฎหมายก็เป็นผลดีเช่นเรื่อง พ.ร.ก.การคืนเงิน 10,000 ล้านบาท ขอให้ฟังข่าวดี ยืนยันว่าประชาชนต้องการเงินคืน ซึ่งการที่นายรังสิมันต์พูดมาก็ต้องรับฟัง แต่ยืนยันว่าตำรวจไซเบอร์ไม่ได้หยุดนิ่งและคดีไซเบอร์เป็นคดีที่เกิดขึ้นเป็นรายนาที ไม่ใช่คดีวิ่งราวทรัพย์ทั่วไป ถือว่าเป็นกระจกเงาและพร้อมรับฟังข้อมูล
ส่วนกรณีของนายเบน สมิท ที่นายรังสิมันต์มีการกล่าวถึง ทางตำรวจไซเบอร์ยังคงยืนยันว่า ขอให้นายรังสิมันต์นำข้อมูลดังกล่าวมามอบให้กับตำรวจไซเบอร์ได้เลย โดยที่ตำรวจไซเบอร์จะยังไม่เรียกนายรังสิมันต์เข้ามาให้ข้อมูล และไม่ว่าผู้ที่เกี่ยวข้องจะเป็นชาวบ้านทั่วไป ผู้ใหญ่ หรือนักการเมือง ก็พร้อมดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้ตลอดทุกราย
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า ข้อมูลของนายเบน สมิท ไม่พบข้อมูลในสารบบของไซเบอร์ ตั้งแต่การแถลงนโยบายเมื่อหลายวันที่ผ่านมา ขณะนี้ผ่านมาหลายวันแล้ว มีข้อมูลของนายเบน สมิท เข้ามาในสารบบหรือมีการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่ รอง ผบช.ไซเบอร์ กล่าวว่าขณะนี้ได้มีการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องและพยานหลักฐานมามอบให้กับตำรวจไซเบอร์ เพื่อใช้ในการตรวจสอบและสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพราะสิ่งสำคัญคือข้อมูล หากมีข้อมูลขอให้นำเข้ามามอบให้
...