เจ้าหน้าที่ขอศาล ออกหมายจับแล้ว 2 ราย โจรปล้นร้านทองในห้างที่นราธิวาส พร้อมเร่งติดตั้งป้อมบังเกอร์กันกระสุน บริเวณทางเข้าห้างฯ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว
ความคืบหน้าเหตุกลุ่มคนร้ายแต่งกายชุดพร้อมอาวุธปืนครบมือ บุกปล้นร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ซึ่งตั้งอยู่ภายในห้างฯ ชื่อดัง สาขาสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ ยิง ส.อ.บุริศวร์ ระดาชัย เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการรบพิเศษที่ 408 ได้รับบาดเจ็บ ขณะเข้าไปขัดขวางกลุ่มคนร้าย ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะกวาดทองรูปพรรณไปได้ จำนวน 600 บาท และวางวัตถุระเบิดเพื่อสกัดกั้นการติดตามของเจ้าหน้าที่ เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 18.30 น. ของคืนวันที่ 5 ต.ค.68 ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด พล.ต.อ.สำราญ นวลมาก รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จ.ยะลา ซึ่งรับผิดชอบคดีความมั่นคง ที่ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภาค 9 มอบหมายให้ พล.ต.ต.ประยงค์ โคตรสาขา ผบก.ภ.จว.นราธิวาส วางมาตรการรักษาความปลอดภัยห้างฯ ที่ถูกกลุ่มคนร้ายบุกปล้นร้านทอง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว ด้วยการนำป้อมบังเกอร์กันกระสุน จำนวน 1 หลัง มาติดตั้งไว้ช่วงบริเวณทางเข้าของห้าง ซึ่งขณะนี้พนักงานของห้างกำลังช่วยกันติดตั้งระบบไฟฟ้า รวมไปถึงการทาสีใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันนี้ พร้อมที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าประจำการที่ป้อมดังกล่าวได้ในวันพรุ่งนี้
...
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบที่ห้างทอง ทางร้านได้เปิดให้บริการปกติเป็นวันแรก แต่ยังไม่ได้จำหน่ายทองคำรูปพรรณเหมือนในทุกวันที่ผ่านมา แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนที่เป็นลูกค้าที่ได้นำทองคำรูปพรรณมาจำนำกับทางร้าน นำหลักฐานมาแสดงเพื่อตรวจสอบว่า ทองที่นำมาจำนำนั้น ถูกกลุ่มคนร้ายได้ปล้นเอาไปด้วยในวันเกิดเหตุหรือไม่ หากพบว่าได้สูญหายไปในวันเกิดเหตุ ทางร้านจะรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ทุกบาททุกสตางค์ เบื้องต้น จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายได้ทองไปทั้งสิ้น 540 บาท จากทองทั้งหมดภายในร้านจำนวน 800 บาท
ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น ล่าสุดได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวชุดคลี่คลายคดีว่า ผลจากการตรวจสอบและพิสูจน์ดีเอ็นเอของกลุ่มคนร้าย ที่ติดที่บริเวณร้านทอง และที่บริเวณรถยนต์กระบะของชาวบ้าน 2 คัน ที่คนร้ายปล้นมาใช้ก่อเหตุและหลบหนีนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ได้พิสูจน์ทราบทางกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์แล้ว 3 ราย โดย 1 ใน 3 ราย พบว่าเป็นลายนิ้วมือแฝงของ รปภ.ห้างฯ เมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีความเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับกลุ่มคนร้ายแต่อย่างใด จึงได้มีการยกเลิกไป
ส่วนดีเอ็นเอของคนร้ายอีก 2 คน เจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจสอบและเปรียบเทียบกับบุคคลในแฟ้มประวัติคดีความมั่นคงแล้ว จึงได้นำไปรวบรวมกับหลักฐานต่างๆ ขออนุมัติศาล จ.นราธิวาส ออกหมายจับ ทราบชื่อคือ นายบักกรี สะมะแอ ส่วนอีกคน ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างขยายผลถึงเครือข่ายที่ร่วมกันก่อเหตุ
นอกจากนี้ในช่วงเวลา 13.00 น. พล.ต.อ.สำราญ นวลมาก รอง ผบ.ตร. หลังจากเป็นประธานประชุมระบบซูมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา คือ ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส โดยใช้ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการตำรวจส่วนหน้า จ.ยะลา ในการรับฟังติดตามความคืบหน้าทางคดี รวมไปถึงการวางมาตรการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น แล้วเสร็จ
พล.ต.อ.สำราญ ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บินสำรวจบริเวณแนวชายแดนไทยมาเลเซีย ด้าน จ.นราธิวาส ที่กลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงจะอาศัยช่องทางธรรมชาติ แฝงตัวมาก่อเหตุแล้วหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้านหลังก่อเหตุแล้วเสร็จ รวมไปถึงนั่งเฮลิคอปเตอร์ดูบรรยากาศที่บริเวณห้างดังกล่าวด้วย