พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เผยรู้ตัวผู้ต้องสงสัย ชักปืนประกบยิง “เสี่ยเปี๊ยก” เศรษฐีเมืองนครปฐม คาดไม่ใช่มืออาชีพ ส่งชุดสืบสวนเฝ้าดูพฤติกรรมแล้ว คาดได้ตัวมาดำเนินคดีเร็วๆ นี้
จากกรณีที่นายระวี อารยะวัฒนะเวช หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 76 ปี เจ้าของธุรกิจหลายประเภท ทั้งเหมืองแร่ โรงกลึง ร้านอาหาร รถบรรทุกสิบล้อ ถูกมือปืนชายชุดดำมารอยิงที่ร้านครัวอาหารป่า ที่ภรรยาเปิดร้าน ริมถนนราชมรรคา เขตเทศบาลนครนครปฐม มือปืนฉวยโอกาสขณะที่นายระวี หรือ เสี่ยเปี๊ยก จอดรถหน้าร้านแล้วเดินเข้าร้าน ตามไปยิงที่ท้องจนล้มลงแล้วยังตามซ้ำยิงที่ศีรษะ ก่อนที่จะขี่รถ จยย.หลบหนี ออกถนนเพชรเกษม เหตุเกิดเมื่อ 18.00 น.ของวันที่ 7 ต.ค. ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อ 09.00 น. วันที่ 8 ตุลาคม 2568 ที่ ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมืองนครปฐม พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7 ได้เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนติดตามความคืบหน้าทางคดีและวางแนวทางจับกุมคนร้าย ประกอบด้วย พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 ดูแลฝ่ายสอบสวน พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.อชิรวัตต์ ถาวรเจริญวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ชุดสืบสวนภาค 7 ชุดสืบสวน ภ.จว.นครปฐม ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม และ กองพิสูจน์หลักฐาน 7 เข้าร่วมประชุม ใช้เวลา 2 ชม.เสร็จสิ้น
หลังออกจากห้องประชุม พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เผยว่า ในการประชุมครั้งนี้ ผบช.ภ.7 ได้เน้นให้ทำการจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะถือเป็นคดีสะเทือนขวัญ เหตุมือปืนก่อเหตุอุกอาจ ยิงใจกลางเมืองหน้าร้านอาหาร และยังเป็นที่พลุกพล่าน ต้องจับกุมตัวมาให้ได้โดยเร็ว พร้อมกับให้รายงานให้ทราบถึงความคืบหน้าทุกระยะ และยังให้ชุดสืบสวนภาค 7 มาร่วมประสานการทำงาน โดยให้รอง ผบช.ภ.7 และตนเองควบคุมคดีอย่างใกล้ชิด
พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงษ์ ผบก.ยังเผยถึงความคืบหน้าในคดี ว่า จากการให้ชุดสืบสวนบูรณาการออกสืบสวนติดตามดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางคนร้ายหลบหนี รูปพรรณของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดตามร้านค้าใกล้ที่เกิดเหตุ จากการประมวลพบว่าคนร้ายมาดักรอจอดรถจยย. เดินกระวนกระวายอยู่ที่หน้าร้านอาหารตั้งแต่เวลา 16.00 น. สวมชุดดำทั้งชุด สวมแมสก์ปิดบังใบหน้า นั่งรออยู่ที่ใต้ต้นไม้ข้างร้านอาหาร รอจนกระทั่งเหยื่อขับรถมาจอดที่หน้าร้าน และเดินจะเข้าร้าน มือปืนจึงเดินไปก่อเหตุ ยิงเข้าที่ท้อง 1 นัด ก่อนที่เหยื่อจะล้มลง แล้วเข้าไปยิงซ้ำที่ศีรษะอีก 1 นัด แต่ในที่เกิดเหตุตำรวจเก็บปลอกกระสุนได้ 2 นัด และกระสุนที่ยังไม่ได้ยิง 1 นัด คาดว่าเป็นกระสุนจากกระบอกที่คนร้ายยิงขัดลำกล้อง
ในส่วนของสาเหตุ ตำรวจตั้งประเด็นไว้หลายประเด็น คือเรื่องขัดแย้งทางธุรกิจ อาจจะมีการกระทบกระทั่งกัน มีการยืมเงินกันไปเป็นล้าน ซึ่งตำรวจกำลังสืบสวนหาสาเหตุว่ามีเรื่องขัดแย้งกับใครบ้าง อีกเรื่องที่น่าสนใจทางตำรวจได้รับข้อมูลจากคนใกล้ชิดว่า ฝั่งคนเจ็บแอบมีภรรยาน้อยอย่างลับๆ อีก 1 คน อายุประมาณ 40 ปีเศษ ที่มีสามีอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังตามสืบหาตัวหญิงปริศนาคนนี้เพื่อมาสอบสวน
ซึ่งสรุปจากการประมวลของหลายฝ่ายแล้ว มือปืนไม่น่าเป็นมือปืนอาชีพ เพราะกองพิสูจน์หลักฐาน 7 ตรวจสอบจากปลอกกระสุนและกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นกระสุนเก่า ไม่ใช่กระสุนใหม่ ปลอกกระสุนที่ลั่นไกออกไปไกสับตีกระสุนก็ไม่เท่ากันทั้ง 2 นัดที่ยิงออกไป คาดว่าน่าจะเป็นปืนชนิดดัดแปลงมาจากปืนบีบีกัน หรือปืนไทยประดิษฐ์ ถ้าหากเป็นมือปืนอาชีพคงไม่ใช้ปืนแบบนี้มายิง แสดงว่าไม่ใช่มืออาชีพแน่ ขณะนี้ตามทางสืบสวน มีตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว อยู่ระหว่างให้ชุดสืบสวนเฝ้าดูพฤติกรรม และรวบรวมหลักฐานให้แน่ชัดเพื่อมัดตัว คาดว่าภายในวันสองวันนี้น่าจะได้ตัว พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม กล่าว.
...