ลูกสาว ร้อง “ปวีณา” ผู้เป็นแม่วัย 47 ปี เสียชีวิตปริศนาในร้านนวดสปา ที่ประเทศญี่ปุ่น พบพิรุธเพียบ เตรียมประสานตำรวจสากลไทยประสานข้อมูลตำรวจที่ประเทศญี่ปุ่นช่วยหาเบาะแส นำตัวสาวเจ้าของร้านชาว จ.มหาสารคาม มาสอบสวนและดำเนินคดี
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 ตุลาคม 2568 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมทีมงานได้เดินทางไปที่ห้องพักคอนโดแห่งหนึ่งในซอยกรุงเทพฯ-นนท์13 แขวงและเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เพื่อช่วยเหลือ น.ส.กัญญาวีร์ หรือ มิ้นท์ อายุ 20 ปี นศ.คณะสัตวแพทย์ ปี 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ น.ส.นงนภัทร์ หรือ ตูน อายุ 47 ปี มารดา เสียชีวิตปริศนาในร้านนวดสปา ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา
น.ส.กัญญาวีร์ กล่าวว่า พ่อกับแม่ตนแยกทางกันแต่ตอนตนเกิด แม่ตนได้สามีใหม่ ช่วยกันเปิดร้านชานมไข่มุก อยู่ย่านเสนานิคม แต่ช่วงหลังเศรษฐกิจไม่ดี จึงต้องไปหัดเรียนนวดย่านประชาอุทิศ จนกระทั่งช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา แม่ได้รับการชักชวนจากเพื่อนแม่ที่เป็นเอเจนซี่ ชักชวนไปทำงานที่ร้านนวดสปาที่เมืองยูกิ จังหวัดอิบารากิ ประเทศญี่ปุ่น แม่จึงตัดสินใจไปทำงาน ตนโทรศัพท์คุยกับแม่ทุกวัน แม่เล่าให้ฟังว่า ไปทำงานนวด แต่เจ้าของร้านบังคับให้ทำมากกว่านวด จึงจำเป็นต้องย้ายร้าน จนกระทั่งมาทำงานที่ร้านสปาแห่งหนึ่ง ได้ประมาณ 3 เดือน ล่าสุดคุยกับแม่ช่วง 23.00 น.ของวันที่ 4 ต.ค.แม่บอกว่า พี่นานา ซึ่งเป็นหญิงสาวเจ้าของร้านชาว จ.มหาสารคาม เลี้ยงเหล้า ตนก็เตือนให้แม่ระวังตัวด้วย แม่จะโทรสั่งอาหารออนไลน์มาให้ตนกับ น.ส.ไสว อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นยายกินทุกวัน วันที่ 5 ต.ค.โทรศัพท์ไปหาแม่ แต่ติดต่อแม่ไม่ได้ ส่วนเพื่อนของแม่ที่อยู่ประเทศไต้หวันบอกว่าติดต่อแม่ได้แค่ช่วงเที่ยงของวันที่ 5 ต.ค.แล้วก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย
หลังจากนั้นตนได้โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อตามหาแม่ โดยคนสุดท้ายที่ได้พูดคุยกับแม่คือเพื่อนของแม่ที่อยู่อีกประเทศหนึ่ง ซึ่งได้โทรคุยกับแม่ในช่วงเวลานั้น แม่บอกแค่ว่า "เดี๋ยวมา" แล้วก็ขาดการติดต่อไปตั้งแต่นั้น และโทรศัพท์วางไว้ที่เดิมไม่มีวี่แววการกลับมา จนตอนนี้แบตโทรศัพท์หมดไปแล้ว ขณะที่ช่องทางโซเชียลก็ไม่มีการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ หนูพยายามติดต่อคนที่ทำงานเดียวกับแม่ ทุกคนบอกเพียงว่า "แม่อาจจะไปกับแฟน" แต่ปกตินิสัยของแม่ ไม่มีทางทิ้งหนูกับยายแน่นอน และว่าตัวเองได้ติดต่อสถานทูตไทยในญี่ปุ่นไว้แล้ว หากใครมีข้อมูล อยากให้ช่วยแจ้งเบาะแสด้วย
...
กระทั่งต่อมา เพื่อนแม่คนหนึ่งบอกให้ตนติดต่อกลับ และแจ้งว่าแม่ของตนเสียชีวิตตั้งแต่ช่วง 14.00-15.00 น. ของวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมาบนเตียงนวดภายในร้านสปา ในลักษณะเปลือยกาย แต่ทางเจ้าของร้านปิดบังตน ภายหลังจากเจ้าของร้านทราบเรื่องว่าตนรู้ว่าแม่ตนเสียชีวิตแล้ว จึงลบรูปแม่ตนออกจากเพจร้านทันที ซึ่งตัวเองก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กเพื่ออยากจะให้ทางร้านออกมาชี้แจง และรับผิดชอบ
หลังจากนั้น เจ้าของร้านติดต่อกลับมาว่าจะดูแลเรื่องค่าทำศพ และจะส่งเงินให้ตนวันละ 300 บาท ตามที่แม่ตนเคยส่งให้ อาจจะไม่ได้ทุกวัน แต่ขอให้ตนลบโพสต์ล่าสุด เพราะทำให้เสียชื่อร้าน ตนส่งเลขบัญชีไปให้ แต่ยังไม่มีการโอนเงินแต่อย่างใด แต่ตนเห็นว่าเจ้าของร้านเจตนาไม่ดีตั้งแต่แรก จึงไม่ยอมลบโพสต์ ในวันนี้ตนได้ไปติดต่อขอใบมรณบัตรที่กรมการกงสุล ที่ถนนแจ้งวัฒนะ แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องรอผลชันสูตรศพของแม่จากประเทศญี่ปุ่นในวันพฤหัสฯที่ 9 ต.ค.นี้
ด้านนางปวีณา กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ประสานตำรวจสากลในประเทศไทย เพื่อให้ประสานตำรวจสากลที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำตัวเจ้าของร้านมาสอบสวนและดำเนินคดี และได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศแล้ว และจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเคลื่อนย้ายศพกลับมายังประเทศไทยเพื่อให้ประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป