นักศึกษาสาว ม.ดังเชียงใหม่ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงิน 8 แสนบาท อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ค่ายมือถือ ออกอุบายหลอกลวงว่าผู้เสียหายมีชื่อเปิดบัญชีธนาคาร จากนั้นมีการให้แอดไลน์ สภ.บางลาด อ้างเป็นตำรวจให้โอนเงินไปตรวจสอบ โชคดีตำรวจตัวจริง สภ.เมืองเชียงใหม่ บุกถึงบ้านรีบแจ้งเตือน ก่อนอายัดเงินที่โอนไปได้ทัน 8 แสนบาท
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 21.30 น. พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5 สั่งการเร่งด่วนให้ พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เร่งรัดตรวจสอบกรณีมีหญิงสาวอายุ 20 ปี ซึ่งเป็น นักศึกษา ม.ดัง ในจังหวัดเชียงใหม่ ถูกกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินเป็นจำนวนหลายแสนบาท และขณะนั้นยังหลงเชื่ออยู่ จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว ในหมู่บ้านหรู พื้นที่ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ผู้เสียหายรู้ตัวเร็วที่สุด ก่อนจะเกิดความเสียหายมากขึ้น
โดย พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่,พ.ต.ท.ทัตตวีย์ ด่านพิทักษ์ตระกูล รอง ผกก.ป.ฯ,พ.ต.ท.วิษณุ นวนมุสิด สวป.ฯ,สั่งการให้ ร.ต.อ.ชัชวาลย์ ตันตา รอง สวป.ฯ,พร้อมกำลังสายตรวจ ว.4 ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ และได้กดกริ่งหน้าบ้าน กระทั่งผู้เสียหายรายดังกล่าวได้เดินออกมาจากบ้าน
...
พบ นางสาวบี อายุ 20 ปี เจ้าหน้าที่ได้พูดคุยอธิบายให้ผู้เสียหายเข้าใจว่า กำลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้โอนเงิน ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเงินไปแล้ว จำนวน 800,000 บาท
ซึ่งนางสาวบี ผู้เสียหายเชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ว่า ตนถูกหลอก และจะไม่โอนเงินอีก ทางตำรวจจึงได้แนะนำผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่
พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5 กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวนั้น ทางตำรวจภูธรภาค 5 ได้รับการประสานงานจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ว่ามีหญิงสาวรายหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการโอนเงินจำนวนมากไปยังบัญชีที่ทางตำรวจเฝ้าระวัง จึงได้สั่งการให้ตำรวจ เร่งเข้าพื้นที่เพื่อพูดคุยกับผู้เสียหายและแจ้งให้ทราบว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก
โดยพฤติกรรมของคนร้ายนั้น โทรมาหลอกลวงผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ค่ายบริการโทรศัพท์ พบว่ามีชื่อของผู้เสียหาย เปิดบัญชีธนาคาร
จากนั้นมีการให้แอดไลน์ สภ.บางลาด อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้โอนเงินไปตรวจสอบ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ หากผลการตรวจสอบไม่พบว่ามีความผิด ทางหน่วยงานจะโอนเงินคืนให้ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไป
ซึ่งเคสนี้โชคดีที่ผู้เสียหายเชื่อจึงได้หยุดโอนเงินประกอบกับทางตำรวจได้มีการประสานไปยังธนาคารปลายทางที่ผู้เสียหายได้โอนเงินเข้าไป จึงสามารถอายัดบัญชีได้ทัน และผู้เสียหายได้เงินทั้งหมด จำนวน 800,000 บาท คืนทั้งหมด
อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุได้ให้ผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่แล้ว โดยตำรวจจะเร่งขยายผลหาตัวการบัญชีคอลเซ็นเตอร์มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมกันนี้ตำรวจได้ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังนักศึกษาและประชาชนทั่วไป หากเจอเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวอย่าหลงเชื่อขอให้ตรวจสอบก่อนอย่าเพิ่งรีบโอนเงินให้เพราะปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะมีวิธีการหลอกหลากหลายรูปแบบ
...