เจ้าหน้าที่ตำรวจตามรวบ ชายทำร้ายร่างกาย พยายามข่มขืน ยายวัย 84 ในบ้านที่สมุทรปราการ อ้างเมาเกิดอารมณ์ แต่เพราะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว ทำได้แค่ลวนลาม สุดท้ายเปลี่ยนใจเพราะยายนอนสวดมนต์

จากกรณี เจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือยาย วัย 84 พาส่งโรงพยาบาล หลังถูกคนร้าย เป็นชายไม่ทราบชื่อ บุกเข้าบ้านกลางดึก ทำร้ายร่างกายจนน่วมทั้งตัว พยายามข่มขืน จนสลบข้ามวัน ฟื้นมาขอความช่วยเหลือชาวบ้าน เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 ก.ย. 68 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านต่อ : คนร้ายบุกซ้อมยายวัย 84 น่วมทั้งตัว หวังข่มขืน จนสลบข้ามวัน)

ล่าสุดวันที่ 30 ก.ย. 2568 พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี พ.ต.ท.ภาวัต รัตนาภรณ์ รองผกก.สส.สภ.บางพลี พ.ต.ต.สันติราษฎร์ สว.สส.สภ.บางพลี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางพลี สามารถควบคุมตัว นายสิทธิพร หรือ โจ อายุ 53 ปี ผู้ต้องสงสัยได้ที่บ้านพัก นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.บางพลี และตรวจสอบร่างกายพบร่องรอยบาดแผลขีดข่วนทั่วร่างกาย และภาพจากกล้องวงจรปิดที่ยืนยันพฤติกรรมพิรุธ 

...


จากการสอบสวนนายสิทธิพร ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง เนื่องจากเมาแล้วเกิดอารมณ์ โดยวันเกิดเหตุนั่งดื่มสุรากับเพื่อนที่ร้านค้า ใกล้ที่เกิดเหตุ หลังดื่มเสร็จจึงขี่จักรยานกลับที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ จากนั้นกลางดึกเกิดอยากดื่มเหล้าอีก จึงเดินถอดเสื้อออกมาที่ร้านเหล้าแต่ร้านปิดแล้ว จึงเดินกลับมาทางเดิม และต้องผ่านบ้านยาย จึงปีนเข้าไปด้านข้างบ้านหวังขโมยเงินไปซื้อเหล้า แต่ยายตื่นขึ้นมาโวยวาย ตนจึงเอามือปิดปากยายและตบหน้าไป 2 ครั้ง ก่อนพยายามจะข่มขืนยาย แต่อวัยวะเพศไม่แข็งตัว จึงลวนลามแทน ประกอบกับยายนอนสวดมนต์อยู่ ตนจึงสำนึก เลิกทำ เดินออกจากที่เกิดเหตุกลับบ้านพัก ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปคุมตัวที่บ้านพัก

พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี กล่าวว่า นายสิทธิพร ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้กระทำคุณยายจริง โดยก่อนเกิดเหตุมีการดื่มสุราจนเกิดอาการมึนเมา ขาดสติ จึงปีนเข้าทางด้านข้าง ตอนนั้นคุณยายนอนอยู่ เมื่อยายตื่นขึ้นมาเห็น จึงเอามือปิดปาก และเริ่มลวนลาม โดยอ้างว่าตบหน้าคุณยายไป 2 ครั้ง ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านี้ แต่เพราะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว ประกอบกับคุณยายนอนสวดมนต์จึงสำนึกผิด และรีบหนีกลับบ้าน

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย และกระทำอนาจาร ส่วนข้อหาบุกรุกในยามวิกาลและข่มขืน กระทำชำเรา อยู่ระหว่างรอผลการตรวจร่างกายและพยานหลักฐาน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป