"พินทองทา" พร้อมสามี เข้าเยี่ยม "ทักษิณ" ในเรือนจำกลางคลองเปรม ยิ้มรับไม่ตอบคำถามสื่อปมยื่นทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษครั้งที่ 2 พบตัวแทนมวลชนเสื้อแดงมารอให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม และส่วนของศูนย์บริการเยี่ยมญาติ มีผู้สื่อข่าวหลากหลายสำนักยังคงปักหลักติดตามรายงานความเคลื่อนไหว และรอสัมภาษณ์สมาชิกครอบครัวชินวัตร โดยทราบว่าวันนี้จะมีเพียง น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือ เอม บุตรสาวคนกลางของนายทักษิณ ชินวัตร มาเป็นตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยมญาติ

และเนื่องจากมีการเปิดเผยจากแหล่งข่าวภายในกระทรวงยุติธรรมว่า นายทักษิณ ชินวัตร ได้ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา เพื่อขอรับพระราชทานอภัยโทษเป็นรายบุคคล ทำให้ผู้สื่อข่าวมารอสัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของตัวแทนมวลชนคนเสื้อแดงที่เดินทางมาจาก จ.สิงห์บุรี และ จ.นนทบุรี มารวมตัวเตรียมรอให้กำลังใจสมาชิกครอบครัวชินวัตร และให้กำลังใจนายทักษิณ อย่างต่อเนื่อง

กระทั่งเวลา 11.00 น. น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม และนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี เดินทางมาถึง โดยมีนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ ชินวัตร รอต้อนรับ เพื่อพาเข้าด้านในเรือนจำฯ โดยมี กลุ่มคนเสื้อแดงตะโกนเสียงดังกึกก้องว่า "เรารักทักษิณ เรารักทักษิณ" และขอถ่ายรูปคู่กับ น.ส.พินทองทา และนายณัฐพงศ์

ระหว่างที่ น.ส.พินทองทา กำลังจะเข้าไปด้านในเรือนจำฯ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย ปรากฏว่า น.ส.พินทองทา ได้หันมารับฟังคำถาม ยิ้มรับ แต่ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าว

ต่อมาเวลา 11.30 น. หลังจากที่ น.ส.พินทองทา และสามี ได้ใช้เวลาเยี่ยมนายทักษิณ ราว 30 นาที ก็ได้เดินออกมาจากเรือนจำฯ เพื่อเตรียมเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามอีกครั้งว่า นายทักษิณ มีการยื่นทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย เป็นครั้งที่ 2 จริงหรือไม่ ปรากฏว่า น.ส.พินทองทา ไม่ได้ตอบคำถามและรีบก้าวเท้าขึ้นรถ

...

ขณะที่ผู้สื่อข่าวยังสอบถาม นายณัฐพงศ์ ว่า ยังสนใจรับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยอยู่หรือไม่ ปรากฏว่านายณัฐพงศ์ ไม่ได้ตอบคำถามแต่ยิ้มให้แทน

ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ ชินวัตร ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า สำหรับอาการสุขภาพของนายทักษิณตอนนี้ ก็ยังมีอาการป่วย แต่ก็ยังสุขภาพดูดีขึ้น หน้าตาสดใสขึ้น เพราะท่านก็พยายามรักษาตัวเอง พยายามปรับตัวให้ได้เมื่ออยู่ข้างใน ส่วนกิจวัตรประจำวัน ท่านก็ยังทำปกติเหมือนเดิม อย่างไรก็ดี ตนพูดไปหลายครั้งแล้วว่าอาการของท่านหลัก ๆ ก็คือเกี่ยวกับเรื่องความดัน เรื่องระบบหัวใจก็ต้องระวัง ส่วนที่เราเป็นกังวลก่อนหน้านี้ก็คืออาการที่เกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอที่จะไปทับเส้นประสาทหรือไม่ นี่คือเรื่องที่ค่อนข้างเซนซิทีฟ

ทั้งนี้ ก็เป็นไปตามอายุของท่าน เพราะท่านก็มีอาการมาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงพยาบาล และในเมื่อท่านอยู่ในสภาวะที่ไม่ได้อยู่ใกล้หมอขนาดนี้ ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น ไม่ว่าการเดิน หรือการทำกิจวัตรต่าง ๆ ก็ระวังมากขึ้น ส่วนเรื่องการปวดกระดูกต้นคอ ตอนนี้ก็ต้องระมัดระวัง มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ก็ต้องระมัดระวัง แม้ยังไม่ถึงขนาดเดินไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ ก็ต้องระวังมากขึ้น

ส่วนเรื่องประสิทธิภาพการนอนหลับ ตนไม่ได้คุยกับท่าน ก็คงจะเป็นเรื่องปกติ อาจนอนหลับบ้างไม่หลับบ้าง ตนคาดเดา เพราะไม่ได้สอบถาม แต่ย้ำว่าสีหน้าดีขึ้น ก็แสดงว่ามีการดูแลตัวและปรับตัวเองได้ดี อย่างไรก็ดี เรื่องความดันก็มีการตรวจตลอด แต่ตนไม่ได้สอบถามเช่นกัน ซึ่งในเรือนจำฯ ก็มีแพทย์เข้าตรวจสุขภาพเป็นรอบ ๆ อยู่แล้ว และท่านก็เป็นผู้สูงอายุ อยู่ในแดนพยาบาล ตนมองว่าเรื่องเหล่านี้ก็ทำเป็นปกติ จะให้ลงรายละเอียดลึกตนคงไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นข้อมูลเรื่องสุขภาพของท่าน

นายวิญญัติ กล่าวว่า กรณีการเยี่ยมญาติทางไลน์เป็นเรื่องปกติของกรมราชทัณฑ์ โดยเฉพาะเรือนจำฯ แต่ละที่ก็มีกันอยู่แล้ว ตนเชื่อว่าญาติและครอบครัวของท่านก็ยังประสงค์เข้าเยี่ยมแบบเห็นหน้าเห็นตากัน เพราะถือเป็นการให้กำลังใจที่ดีอย่างหนึ่ง นอกจากจะติดภารกิจจริง ๆ ก็อาจเยี่ยมทางไลน์แทน แต่การเยี่ยมทางไลน์ก็มีการลงทะเบียนไว้อยู่แล้ว แต่ขอสงวนว่าใครลงทะเบียนบ้าง

ส่วนกรณีว่าทางเรือนจำฯ มีกิจกรรมเยี่ยมญาติใกล้ชิดด้วยนั้น ตนเชื่อว่าถ้ามีเยี่ยมญาติใกล้ชิด ท่านก็ต้องได้รับสิทธิ์ ก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไร ทุกครอบครัวก็คงต้องมาอยู่แล้ว ทั้งนี้ ท่านทักษิณยังไม่ได้มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เรื่องอื่น ๆ ที่ทนายความกับลูกความคุยกันก็มักเป็นเรื่องปกติทั่วไป ว่าเรื่องอะไรบ้างที่เราทำอยู่ และเป็นข้อห่วงใย นอกจากนี้ ท่านยังได้ขอบคุณพี่น้องคนเสื้อแดง และประชาชนที่เป็นห่วงท่าน ส่วนพี่น้องที่มาจัดกิจกรรมหน้าเรือนจำฯ โดยส่วนตัวตนขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบเรียบร้อย เพราะอยู่ในสถานที่ราชการ พี่น้องเรามาแสดงพลังก็ดีแล้ว ท่านก็ไม่ได้สั่งการหรือมอบหมายอะไรมา ท่านขอบคุณมาก

...

ผู้สื่อข่าวพยายามจะสอบถามถึงกรณีผลการเลือกตั้งซ่อม สส.จังหวัดศรีสะเกษ เขต 5 ที่ผ่านมา ว่าได้แจ้งให้นายทักษิณ ทราบหรือไม่ นายวิญญัติ รีบปฏิเสธไม่ขอให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมือง และขออภัยสื่อมวลชน ก่อนเดินออกจากวงสัมภาษณ์

เมื่อผู้สื่อข่าวได้พยายามเดินสอบถามต่อว่า เรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษครั้งที่ 2 ซึ่งทนายความก็อธิบายว่า ได้มีการยื่นขอไปจริง และถือเป็นสิทธิของผู้ต้องขังเด็ดขาดทุกราย เป็นสิทธิตามกระบวนการ และเราก็ดำเนินการหลายวัน และครั้งนี้ก็ดำเนินการนานกว่าครั้งที่แล้ว ทุกอย่างเป็นพระราชอำนาจเป็นพระเมตตาของพระองค์ท่าน ไม่อาจก้าวล่วงได้

และเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการขอพระราชทานอภัยโทษครั้งที่ 2 สามารถทำได้หรือไม่ เจ้าตัวก็ขอปฏิเสธไม่ให้ความเห็นเรื่องดังกล่าว แต่ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ทั้งนี้ การยื่นฯ เป็นกระบวนการทางเอกสารและทำความเห็นประมาณ 14 วัน ใช้เวลามากกว่าครั้งที่แล้ว ซึ่งใช้เวลา 6 วัน การยื่นครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นการเร่งรีบ