ฝรั่งฮอลแลนด์ ให้เงินเมียไทยลงทุนเปิดบาร์ 10 ล้าน สุดท้ายเงินหมด ขับกระบะลากตู้เอทีเอ็มเลียนแบบในหนัง แต่ไม่รอดถูกรวบยัดคุก


เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 กันยายน 2568 พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.บ้านเป็ด เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด จับกุมชายชาวฮอลแลนด์ อายุ 60 ปี ปัจจุบันพักอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมของกลาง ตู้ ATM อุปกรณ์ของธนาคาร และรถยนต์กระบะ สีดำ ทะเบียน ขอนแก่น และรอก พร้อมโซ่ จำนวน 1 ตัว

ก่อนจับกุมชาวต่างชาติรายนี้นั้น สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 21 กันยายน 2568 มีพลเมืองดี โทรศัพท์แจ้งศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีคนร้าย เป็นชายชาวต่างชาติ แต่งชุดสีดำ ผมสีทอง ขโมยตู้เอทีเอ็ม ที่ตั้งอยู่หน้าร้านศรีสวัสดิ์ สาขาชุมชนบ้านทุ่ม ม.2 ริมถนนมะลิวัลย์ ต.บ้านทุ่ม อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ดออกไปตรวจสอบด้วย

หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม ที่ออกตรวจความเรียบร้อยใกล้จุดเกิดเหตุ จึงเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุทันที พบว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง จึงได้ประสานชุดสืบสวน และพนักงานสอบสวนเวร ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุทันที พร้อมทั้งตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้

...

เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่หน้าอาคารที่ทำการร้านไทยไซโย สาขาบ้านทุ่ม โดยที่ท้ายรถมีโซ่เส้นใหญ่ คล้องเกี่ยวกับตู้เอทีเอ็มเอาไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงกระจายกำลังกันออกค้นหาตัวคนร้าย พบคนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติ สวมใส่ชุดสีดำ หลบอยู่ในพงหญ้าข้างทางใกล้กับจุดที่จอดรถไว้ จึงควบคุมตัวไว้ และนำไปควบคุมไว้ที่ห้องควบคุม สภ.บ้านเป็ด

ผกก.สภ.บ้านเป็ด กล่าวอีกว่า หลังควบคุมตัวชายต่างชาติและยึดของกลางดังกล่าวไว้แล้ว ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และ เจ้าหน้าที่ ศพฐ.4 ขอนแก่น ร่วมตรวจตู้เอทีเอ็มและเก็บลายนิ้วมือของคนร้าย ซึ่งจากการสอบสวนในส่วนที่เกิดเหตุนั้น มีรอยครูดลากของตู้เอทีเอ็มมายังท้ายรถยนต์กระบะแล้วลากไปตามถนนประมาณ 20 เมตร เหมือนในหนัง Fast.5 เร็ว แรงทะลุนรก

จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า ชายผู้ก่อเหตุเลียนแบบในภาพยนตร์ โดยมาอยู่ที่ประเทศไทยได้ประมาณ 6 ปีแล้ว ให้เงินภรรยาประมาณ 10 ล้านบาท เปิดร้านอาหารที่ริม ถ.ประชาสำราญ ในเมืองขอนแก่น และพากันพักอาศัยอยู่ที่ร้านดังกล่าว แต่ระยะหลังเงินใช้จ่ายในครอบครัวหมด ไม่มีเงินหมุน

ก่อนเกิดเหตุ สามีภรรยามีปัญหากันเรื่องเงินที่ไม่พอใช้จ่าย จึงมีปากเสียงกัน ทะเลาะกัน สามีจึงขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวออกไป โดยบอกว่าจะไปเที่ยวหาเพื่อนที่จังหวัดหนองคาย ภรรยาจึงไม่สนใจ และมาทราบเรื่องอีกครั้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้นนั้น ภรรยาไม่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในครั้งนี้

ส่วนรถยนต์คันที่ใช้เป็นยานพาหนะก่อเหตุนั้น จากการสอบสวนทราบว่า เป็นรถของญาติที่ใช้ร่วมกันในครอบครัว และชายชาวต่างชาติก็เอามาใช้ก่อเหตุ ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งรอกและโซ่ที่นำมาใช้ในการลากตู้เอทีเอ็มออกจากที่ตั้งนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหานำมาจากที่ไหน หรือมีใครร่วมก่อเหตุหรือไม่

หลังการสอบสวนเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ และ ใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมฯ ซึ่งในขณะนี้ทางธนาคารได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ขอให้ทุกอย่างดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายและไปว่ากันที่ชั้นศาล.