ตำรวจ สน.หนองแขม ยืนยันว่า ชายแต่งกายคล้ายตำรวจชุดสืบสวน เรียกตรวจไรเดอร์ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด สน.หนองแขม แต่อย่างใด และไม่ใช่อาสาสมัครตำรวจของโรงพักหนองแขม ด้วย เพราะ สน.หนองแขม ไม่มีนโยบายทำอาสาสมัครตำรวจ ผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งเร่งดำเนินการตรวจสอบ ติดตามมาดำเนินคดีแล้ว
จากกรณีผู้ใช้ Facebook ที่ชื่อว่า Pee Ta ได้มีการโพสต์ข้อความและคลิปเหตุการณ์ ที่ถูกบุคคลแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดขวางและทำทีเป็นเรียกตรวจ โดยชายคนดังกล่าวมีอุปกรณ์วิทยุสื่อสาร ไฟฉาย และเสื้อระบุว่าสืบสวน ก่อนจะตะคอกด่าว่าทำไมไรเดอร์ไม่มีกล่องใส่อาหารอยู่ท้ายรถ พร้อมขู่ว่าจะเรียกสายตรวจไปดำเนินคดีเป็นไรเดอร์เถื่อน และจะตบทำร้ายร่างกาย โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไรเดอร์ผู้เสียหายได้บันทึกคลิปเอาไว้ตลอดเหตุการณ์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปสัมภาษณ์ นายต๊ะ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี ไรเดอร์ผู้เสียหายจากเหตุการณ์นี้ โดยระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาช่วงประมาณเที่ยงคืน ขณะที่ตนกำลังจะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน โดยตนเองใส่เสื้อไรเดอร์ค่ายหนึ่ง ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์มาประกบ พร้อมตะโกนด่าทอว่า "เป็นไรเดอร์ทำไมไม่มีกล่องใส่อาหารอยู่ข้างหลัง" และพยายามที่จะแซงตน แต่ไม่ได้สนใจอะไรจึงขี่รถต่อไป
ปรากฏว่า เมื่อมาถึงบริเวณปากซอยเพชรเกษม 81/5 ตนก็ได้จอดรถจักรยานยนต์ เนื่องจากมีงานลูกค้าวิ่งขึ้นมาให้ไปส่งผู้โดยสาร จึงจะจอดรถเพื่อเช็กงาน แต่ทว่าผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ทันพอดีแล้วมาจอดแซงดักหน้าตน
เมื่อมาถึงก็อ้างว่าเป็นตำรวจสืบสวน และใช้ไฟฉายพยายามจะตรวจค้น พร้อมกับด่าทอตนว่า "เป็นไรเดอร์ทำไมไม่มีกล่องอาหารข้างท้ายรถ" พร้อมด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายตามที่ปรากฏในคลิป ซึ่งตนเองจะพยายามอธิบายอย่างไร ผู้ก่อเหตุก็ไม่ยอมฟัง พร้อมกับข่มขู่ว่า จะวิทยุเรียกตำรวจสายตรวจมาจับกุมและจะลงมือตบหน้าตน
ตอนนั้นตนจึงใช้โทรศัพท์บันทึกคลิปเอาไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐานป้องกันตนเอง แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังไม่หยุด ก่อนที่สุดท้ายผู้ก่อเหตุจะไล่ตน ตนก็เลยขี่รถออกไปเพื่อกลับเข้าบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ แต่เมื่อขี่ออกมา พบว่าผู้ก่อเหตุก็ยังขี่รถจักรยานยนต์ตามมาด่าตนจนถึงปากซอยทางเข้าบ้าน แล้วหลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็ขี่รถแยกย้ายมุ่งหน้าออกไปทางอ้อมใหญ่
นายต๊ะ เชื่อว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่ตำรวจแน่นอน เพราะถึงแม้ว่าผู้ก่อเหตุจะมีวิทยุสื่อสาร มีไฟฉาย และมีเสื้อที่เขียนว่าฝ่ายสืบสวน แต่ตัวผู้ก่อเหตุกลับไม่แสดงบัตรว่าเป็นตำรวจ นอกจากนี้ตนเองก็รู้นิสัยของตำรวจเป็นอย่างดี เพราะตนเคยถูกตำรวจเรียกตรวจมาก่อน ส่วนใหญ่จะเห็นว่าตำรวจตัวจริง มาด้วยรถสายตรวจ มีเครื่องแบบเต็มยศ พร้อมกับแสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ โดยแสดงบัตรตำรวจเพื่อยืนยัน รวมทั้งเวลาพูดคุย ก็จะพูดคุยด้วยถ้อยคำที่สุภาพ
ทั้งนี้ ตนเองก็ไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร เพราะยังคงต้องตั้งสติและป้องกันตนเองเต็มที่โดยการอัดคลิปวิดีโอ แต่ยอมรับว่า ก็กลัวหากผู้ก่อเหตุมีอาวุธและจะทำร้ายตน ตนเคยเห็นข่าวเพื่อนไรเดอร์ด้วยกันถูกจี้ชิงทรัพย์ ในลักษณะคล้ายคลึงกัน ก็กลัวว่าวันหนึ่งจะเกิดขึ้นกับตนเอง ซึ่งหลังจากนี้ตนเองจะเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ สน.หนองแขม ซึ่งเป็นท้องที่ที่เกิดเหตุต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายต๊ะยอมรับว่า ตนเองไม่ได้ติดตั้งกล่องส่งอาหารท้ายรถจักรยานยนต์ เป็นเพราะตนเองวิ่งงานรับผู้โดยสารเป็นหลัก น้อยครั้งที่จะรับงานส่งอาหาร ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ไรเดอร์ทำกัน และไม่ผิดกฎของบริษัทแต่อย่างใด
นายต๊ะ ยังได้ฝากเตือนไปยังไรเดอร์และผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยกันว่า ขอให้ระมัดระวังบุคคลที่อ้างตัวเองว่าเป็นตำรวจมาเรียกตรวจแบบนี้ หากเป็นไปได้ให้ขอตรวจบัตรตำรวจก่อน เพื่อป้องกันคนที่แอบอ้างว่าเป็นตำรวจและอาจจะทำอันตรายอย่างอื่นได้ รวมทั้งอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันตรวจสอบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจจริง ๆ ตามที่แอบอ้างหรือไม่
ต่อมาทีมข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณปากซอยเพชรเกษม 81/5 ถนนเพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม พบว่าบริเวณดังกล่าวมีที่ทำการของธนาคารและร้านค้าที่ปิดบริการในวันเสาร์อาทิตย์ ส่วนจุดเกิดเหตุนั้น อยู่บริเวณปากซอยถัดเข้ามาจากถนนใหญ่เพียงเล็กน้อย อยู่ในท้องที่รับผิดชอบของ สน.หนองแขม
จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกนี้ ระบุว่าพอคุ้นหน้าของชายผู้ก่อเหตุ เท่าที่จำได้จะเห็นขี่รถจักรยานยนต์และสวมชุดตามที่ปรากฏในคลิป แต่จำรายละเอียดได้ไม่ค่อยมาก เพราะไม่เคยแวะจอดพูดคุยทักทายอะไรกัน ทั้งนี้ ตนเองไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ออกมาจากตัวผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด
...
ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อมูลกับตำรวจ สน.หนองแขม ซึ่งเป็นท้องที่ที่เกิดเหตุ ได้รับการตรวจสอบยืนยันว่า ชายคนดังกล่าวไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด สน.หนองแขม แต่อย่างใด และไม่ใช่อาสาสมัครตำรวจของ สน.หนองแขม ด้วย เพราะ สน.หนองแขม ไม่มีนโยบายทำอาสาสมัครตำรวจ
ทั้งนี้ ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน พร้อมรับแจ้งความจากผู้เสียหายและเร่งดำเนินการตรวจสอบ เพื่อติดตามตัวชายผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ทั้งในส่วนที่กระทำต่อผู้เสียหายและในคดีการแอบอ้างตนเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทำให้ตำรวจได้รับความเสียหาย
ขณะที่จากการสอบถามข้อมูลไปยัง สน.หนองค้างพลู ซึ่งอยู่ใกล้เคียงท้องที่ที่เกิดเหตุเช่นเดียวกัน ก็ได้รับการยืนยันว่า ชายผู้ก่อเหตุไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครตำรวจของสังกัด สน.หนองค้างพลู แต่อย่างใด