รวบ 4 นักท่องเที่ยวเมืองผู้ดี หลังเกิดเหตุขับรถเอสยูวีเฉี่ยวชนรถ จยย. ทนายความชาวอเมริกัน จนล้มแล้วใช้มีด-ปืน ชิงนาฬิกาหรูเรือนกว่า 2 ล้านบาท หลบหนีไป ผู้เสียหายขอบคุณตำรวจไทย ทำงานไว

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 19 ก.ย.68 ที่ สภ.เชิงทะเล ชุดสืบสวน สภ.เชิงทะเลพร้อมด้วยชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ตควบคุมตัวกลุ่มชายชาวต่างชาติจำนวน 4 คน สัญชาติอังกฤษ ที่ต้องสงสัยร่วมกันก่อเหตุปล้นทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน และนาฬิกายี่ห้อปาเต๊ะของผู้เสียหาย มูลค่ากว่า 2.3 ล้านบาท จำนวน 1 เรือน โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่วิลล่าหรูแห่งหนึ่งใน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อกลางดึกวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา

จากนั้น พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหา โดยมีการแยกสอบก่อนควบคุมตัวไปขยายผลต่อ

สืสืบเนื่องเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 ก.ย.68 ได้เกิดเหตุกลุ่มชายชาวต่างชาติไม่ทราบจำนวน ใช้รถยนต์สีฟ้าเป็นยานพาหนะขับเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ที่มีชายชาวต่างชาติเป็นคนขับขี่ ภายในซอยลายัน 7 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จากนั้นได้ใช้มีดและปืนปล้นนาฬิกายี่ห้อปาเต๊ะเรือนทอง ราคากว่า 2.3 ล้านบาท ที่ผู้เสียหายสวมใส่อยู่ที่ข้อมือ แล้วหลบหนีไป โดยกลุ่มคนร้ายได้ขับรถติดตามผู้เสียหายมา โดยมีหลักฐานเป็นกล้องหน้ารถของพลเมืองดีสามารถบันทึกเหตุการณ์ขณะที่กลุ่มคนร้ายก่อเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน และยังให้การช่วยเหลือผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บจากรถจักรยานยนต์ที่ถูกเฉี่ยวชน และนำส่ง รพ.ถลาง ก่อนพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มชายชาวต่างชาติที่ สภ.เชิงทะเล ในวันเดียวกัน

ต่อมา สภ.สาคู ได้ประสานมายัง สภ.เชิงทะเล ว่าพบรถต้องสงสัยที่อาจใช้ในการก่อเหตุจอดทิ้งอยู่ในป่าละเมาะในพื้นที่ ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จึงแจ้ง พฐ.ภูเก็ต เข้าเก็บวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ พร้อมกับนำรถเอสยูวีสีฟ้าที่คนร้ายนำไปจอดทิ้งไว้กลับมายัง สภ.เชิงทะเล

...


จากนั้นชุดสืบสวนเริ่มแกะรอยจากกล้องหน้ารถของพลเมืองดีและขยายผลตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงและโดยรอบ จนทราบว่ายังมีรถอีก 2 คัน ที่เชื่อว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ โดยเป็นรถเอสยูวีสีบรอนซ์เทา 1 คัน และรถเอสยูวีสีขาวอีก 1 คัน และพบว่ารถทั้ง 2 คัน จอดอยู่ที่วิลล่าภายในซอยบางเทา 1 หลังที่ทำการ อบต.เชิงทะเล ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 4 คน พร้อมรถของกลางมาขยายผลและสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เชิงทะเล

ด้าน นายจอห์น (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ทนายความชาวอเมริกัน ซึ่งทำงานอยู่ในกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน และเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยัง จ.ภูเก็ต ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการกระทำที่มีการวางแผนล่วงหน้าหลายวัน โดยคนร้ายอาศัยชื่อเสียงด้านความปลอดภัยและความมีน้ำใจของคนไทยเป็นช่องทางก่อเหตุ เพื่อโจมตีนักท่องเที่ยวและทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ ตนเป็นทนายความ จึงพอเข้าใจพฤติกรรมของอาชญากร และเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายมีประสบการณ์ก่อเหตุลักษณะนี้มาก่อน ครั้งนี้พวกเขาเฝ้าติดตามตนเอง จนกระทั่งได้จังหวะและเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งเป็นช่วงนักท่องเที่ยวน้อย แล้วลงมืออย่างอุกอาจ โดยใช้รถยนต์พุ่งชนรถจักรยานยนต์ของตนจนล้ม ก่อนใช้มีดและปืนข่มขู่เพื่อชิงทรัพย์นาฬิกาของตนเองไป

"ตนเดินทางมาเยือนไทยมากกว่า 60 ครั้ง และถือว่าไทยเป็นบ้านหลังที่ 2 เหตุการณ์นี้ไม่ทำให้ความรู้สึกที่ดีที่มีต่อประเทศไทยเปลี่ยนไป แต่กลับประทับใจในความเป็นมืออาชีพและการตอบสนองอย่างทันท่วงทีของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยมากยิ่งขึ้น" นายจอห์นกล่าว

ด้าน พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวภายหลังการสอบปากคำผู้ต้องหาว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นเป็นการชิงทรัพย์ ของกลางเป็นนาฬิกามูลค่าราว 2 ล้านบาท หลังจากที่เราทำการสืบสวน เราสามารถจับกุมผู้ต้องหามาได้ 4 คน ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ เบื้องต้นมีผู้ร่วมกันก่อเหตุ 4 คน แต่จะต้องขยายผลว่ายังมีคนอื่นที่เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ อย่างไร ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน

ส่วนการตรวจสอบประวัติอาชญากรของ 4 ผู้ต้องหานั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นเดียวกัน โดย 4 ผู้ต้องหาแต่ละคนเข้ามายังประเทศไทยไม่พร้อมกัน เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค.และ มิ.ย.68 โดยเข้ามาอย่างถูกต้อง วีซ่ายังไม่หมดอายุ เป็นการมาท่องเที่ยว ซึ่งจะมีการแจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป