"สืบพระราชวัง" รวบหนุ่มแสบตระเวนลักทรัพย์ในรถคนขนส่งสินค้าที่ปากคลองตลาด บ้านหม้อ ท่าดินแดง ตลาดพลู สำเพ็ง พาหุรัด สารภาพออกก่อเหตุเกือบทุกวัน วันละ 1 ครั้ง พบประวัติอาชญากรรมอื้อ เพิ่งพ้นโทษในคดีลักทรัพย์
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 กันยายน 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พลูสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.เดชา พรมโสภา สว.สส. พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง
จับกุมนายสาคร วอนศิริ อายุ 42 ปี ชาว อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ คนขับรถขนส่งสินค้าตามพื้นที่ตลาดในเขตเมืองเก่า โดยอาศัยจังหวะที่คนขับรถขนส่งรีบลงจากรถเพื่อขนถ่ายสินค้า แต่ไม่ได้ล็อกรถ จึงก่อเหตุ จับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านลาดหญ้า แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กทม.
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายวัย 27 ปี เดินทางมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง ว่า เมื่อช่วงเวลา 14.25 น. วันเดียวกัน ผู้เสียหายขับรถกระบะตู้ทึบจอดที่บริเวณหน้าร้านนวดแห่งหนึ่งบนถนนเฟื่องนคร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม. เพื่อนำสินค้ามาส่งที่บริเวณดังกล่าว ผู้เสียหายติดเครื่องรถยนต์ไว้และปิดประตูรถไว้ ก่อนลงไปส่งสินค้าโดยไม่ได้ล็อกประตูรถ
หลังจากนั้นเมื่อส่งสินค้าเสร็จ ผู้เสียหายรับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีผู้ชายใส่เสื้อสีดำ มาเปิดประตูรถที่จอดไว้ บริเวณด้านขวาฝั่งคนขับ ผู้เสียหายตรวจสอบทรัพย์สินภายในรถพบว่า มีทรัพย์สินของผู้เสียหายหายไป โทรศัพท์มือถือราคาประมาณ 27,000 บาท เงินสด 130 บาท กระเป๋าสตางค์สีดำ ราคาประมาณ 1,000 บาท ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล และบัตรประจำตัวประชาชน
ชุดจับกุมติดตามเส้นทางการหลบหนีของผู้ก่อเหตุจากภาพกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่า คนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 40-45 ปี ส่วนสูงประมาณ 170-175 ซม. ทรงผมสั้น สวมหมวกแก๊ป สีเทาดำ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น สีดำ สวมกางเกงยีนส์ สีน้ำเงินฟอก ใส่รองเท้าผ้าใบสีดำขอบขาว ใส่นาฬิกาที่ข้อมือข้างซ้าย แขวนกระเป๋าหนังคาดอก สีน้ำตาล เดินเข้าไปที่ประตูด้านคนขับและได้ใช้มือเปิดประตูรถออกมา ก่อนหยิบกระเป๋าสตางค์สีดำออกมาจากรถและถือไว้ในมือด้านซ้าย พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากรถนำไปใส่เข้าไปที่กระเป๋ากางเกงด้านหน้าข้างขวาของคนร้าย แล้ววิ่งหนีออกไปจากจุดก่อเหตุ
...
ต่อมาเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ชุดจับกุมสืบทราบว่า คนร้ายเดินทางเข้าไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งบนถนนลาดหญ้า ไปตรวจสอบพบผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องพักชั้น 2 ของโรงแรม มีตำหนิรูปพรรณตรงกับชายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ตามภาพจากกล้องวงจรปิด แสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบว่าชายคนดังกล่าวชื่อนายสาคร วอนศิริ อายุ 42 ปี แสดงพยานหลักฐานภาพวงจรปิด นายสาครยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์จริง ตรวจค้นหาพยานหลักฐานในห้องพักเพิ่มเติม พบเสื้อผ้าที่ใส่ขณะก่อเหตุและทรัพย์สินที่ได้จากการก่อเหตุ พบบัตรประชาชนของผู้เสียหายรวมกว่า 19 ราย และของกลางอื่น ๆ เช่น กระเป๋าเงิน 15 ใบ หูฟังบลูทูธ 10 ชิ้น กระเป๋าคาดอก 8 ใบ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และพระเครื่องจำนวนมาก
ผู้ต้องหาให้การว่า จะเลือกผู้เสียหายที่ขับรถยนต์มาส่งสินค้าตามตลาดหรือร้านค้าที่มีรถยนต์ส่งสินค้าจำนวนมาก แล้วจะใช้โอกาสเร่งรีบของผู้เสียหายที่มักจะไม่ล็อกรถยนต์ในขณะที่ลงไปส่งสินค้า เดินเปิดประตูลักหยิบเอาทรัพย์สินภายในรถยนต์แล้วรีบหลบหนีหายไป
ทรัพย์สินที่ได้ส่วนใหญ่ จะเป็นกระเป๋าเงินและโทรศัพท์มือถือ จะเอาเฉพาะเงินภายในกระเป๋า ส่วนตัวกระเป๋าและบัตรเอกสารจะเก็บสะสมไว้ สำหรับโทรศัพท์มือถือ หากชิ้นไหนที่สภาพดี จะนำไปขายต่อ ส่วนชิ้นไหนสภาพไม่ดี จะเก็บสะสมไว้เช่นเดียวกัน ส่วนสาเหตุที่เลือกก่อเหตุกับคนขับรถขนส่งนั้น เป็นเพราะทราบดีว่าคนขับรถขนส่งสินค้าจะมีเงินติดตัวอยู่เสมอ และมักจะเร่งรีบลงไปส่งสินค้า จนลืมล็อกรถยนต์
สำหรับสถานที่ก่อเหตุ จะเลือกลงมือก่อเหตุแถวย่านตลาดที่มีการส่งสินค้า เช่น ตลาดปากคลอง บ้านหม้อ ท่าดินแดง ตลาดพลู สำเพ็ง พาหุรัด เป็นต้น ออกก่อเหตุเกือบทุกวัน วันละ 1 ครั้ง หลังก่อเหตุจะกลับมาพักที่ห้องพักทันที
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นายสาครเป็นผู้ต้องหาคนเดียวกันกับที่ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ของ สน.พระราชวัง เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยพบหลักฐานเป็นกระเป๋าสะพายสีครีมและบัตรประชาชนของผู้เสียหายในคดีนั้น นายสาครยอมรับสารภาพว่ากระทำผิดจริง
สำหรับประวัติของนายสาคร มีประวัติก่ออาชญากรรมมากถึง 6 ครั้ง ปี 2561 คดีลักทรัพย์ ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี คดีลักทรัพย์ ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ปี 2564 คดีลักทรัพย์ ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ปี 2565 คดีลักทรัพย์ ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ คดีลักทรัพย์ ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ และปี 2567 คดีลักทรัพย์ ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ
ล่าสุด ผู้ต้องหาเพิ่งพ้นโทษในคดีลักทรัพย์จากเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา
แจ้งข้อหาลักทรัพย์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนทรัพย์สินที่พบจากการก่อเหตุตำรวจจะสืบสวนสอบสวนหาผู้เสียหายมารับทรัพย์สินคืนและแจ้งข้อหาเพิ่มเติมดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป
...