เชียงใหม่ - ตำรวจ PCT ภาค 5 แกะรอยรวบชุดใหญ่คาธนาคาร ขบวนการม้ากดเงิน ทั้งชาวลาวและชาวไทย รวม 7 ราย เชื่อมโยงเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ คิงโรมัน หลอกเหยื่อ 11 ราย ทำภารกิจพิชิตเงินรับรางวัล สารภาพบอสจีนเทา จ่ายค่าจ้างแตกต่างกันไป คนขับรถได้วันละ 2 พัน ส่วนม้ากดเงิน ได้เปอร์เซ็นต์ค่าจ้างล้านละ 7 พัน ส่วนคนจัดหาบัญชีม้า ได้ล้านละ 12,000 บาท ก่อเหตุมาหลายครั้งแล้ว สามารถหาเงินให้บอสชาวจีนได้กว่า 40 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 - ศปอส.ภ.5 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5 นำกำลังบุกเข้าจับกุมเครือข่ายจีนเทาม้ากดเงินเชื่อมโยงเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ คิงโรมัน ภายในซอยข้างธนาคารแห่งหนึ่ง ภายในตำบลเวียงหนองล่อง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน หลังได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มบุคคลได้ทำธุรกรรมถอนเงินสด ท้องที่จังหวัดลำพูน เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมกลุ่มบุคคลเหล่านี้

กระทั่ง เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 15 กันยายน 2568 ได้มีรถยนต์สีขาว ยี่ห้อฟอร์ด หมายเลขทะเบียน จย 8425 เชียงใหม่ ขับรถมาถอนเงินธนาคารเพื่อการเกษตร สาขาเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน จึงได้นำกำลังบุกเข้าจับกุมและตรวจค้นภายในรถ สามารถรวบผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 7 ราย
ประกอบด้วย นายศรัณย์พงศ์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ทำหน้าที่ควบคุมม้ากดเงิน

...



น.ส.นันท์ธนัษฐ์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 48 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ทำหน้าที่ควบคุมม้ากดเงิน และ MR.KEO MOUNSEELAVONG อายุ 25 ปี สัญชาติลาว ทำหน้าที่ควบคุมม้ากดเงิน น.ส.สายรุ้ง ขอสงวนนามสกุล อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดลำพูน ทำหน้าที่ควบคุมม้ากดเงิน

นายเอกชัย ขอสงวนนามสกุล อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดลำพูน ทำหน้าที่ม้ากดเงิน เจ้าของบัญชีม้า นายณัฐภัทร ขอสงวนนามสกุล อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดลำพูน ทำหน้าที่จัดหาบัญชี และนายวิทูล ขอสงวนนามสกุล อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร ทำหน้าที่เจ้าของบัญชีม้า พร้อมของกลางเงินสด 549,000 บาท สมุดบัญชี 1 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ไอแพด 2 เครื่อง

ก่อนนำตัวทั้งหมดดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันเป็นอั้งยี่”




พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ภ.5 ได้รับการประสานงานจากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ว่านายศรัณย์พงศ์ พร้อมพวก มีพฤติการณ์ตระเวนถอนเงินสดตามธนาคารต่างๆ ซึ่งเป็นยอดเงินที่ได้จากการกระทำความผิดจากระบบรับแจ้งความออนไลน์

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนติดตามพบบุคคลต้องสงสัย โดยจะใช้ยานพาหนะคือ รถยนต์สีขาว ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเอเวอร์เรซ ทะเบียน จย 8425 เชียงใหม่ ตระเวนถอนเงินสดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชื่อว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นกลุ่มอาชญากรรม แก๊งคอลเซ็นเตอร์มีหน้าที่จัดการเรื่องการเงิน คือ หลังจากผู้เสียหาย โอนเงินเข้าบัญชีม้า แล้วกลุ่มผู้ต้องหาจะคอยควบคุมม้ากดเงินที่มาด้วยกัน ตระเวนถอนเงินผู้เสียหายออกมาแล้ว นำไปส่งต่อให้กับผู้ร่วมขบวนการอื่นๆ ตามที่ได้รับสั่งการ โดยกลุ่มคนพวกนี้จะแบ่งหน้าที่กันทำแต่ละส่วน คือ เจ้าของบัญชีม้ากดเงิน คนควบคุมม้า คนรวมเงิน คนขับรถ คนประสานงาน และคนจัดหาบัญชีม้า

...




จนมาพบกลุ่มผู้ต้องหาตระเวนกดเงิน ในพื้นที่ ต.เวียงหนองล่อง จึงเข้าจับกุมทั้งหมดไว้

จากการสอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพได้ลงมือก่อเหตุจริงโดยได้คำสั่งจากนายทุนคนจีน ให้มาคอยกดเงิน แล้วนำเงินโอนให้แก่คนจีน ซึ่งแต่ละคนก็จะได้รับค่าจ้างแตกต่างกันไป คนขับรถได้ค่าจ้างวันละ 2,000 บาท ส่วนม้าที่กดเงิน ได้เปอร์เซ็นต์ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท ส่วนคนจัดหาบัญชีม้านั้นได้ค่าจ้างล้านละ 12,000 บาท ซึ่งเคยก่อเหตุมาหลายครั้งแล้ว สามารถหาเงินให้บอสชาวจีนได้กว่า 40 ล้านบาท

โดยแก๊งนี้มีผู้เสียหายชาวไทย จำนวน 11 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เสียหายเป็นเหยื่อที่ถูกหลอกให้ทำภารกิจเพื่อรับเงินรางวัลตอบแทน ซึ่งโชคดีครั้งนี้ที่ตำรวจสามารถยึดเงินได้ทัน ก่อนที่กลุ่มขบวนการเหล่านี้จะนำไปแปลงเป็นคริปโตฯ จึงสามารถนำเงินทั้งหมดมาคืนให้ผู้เสียหายที่ถูกหลอกได้อย่างทันท่วงที

อย่างไรก็ตามทางตำรวจขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการต่อไปโดยแก๊งนี้ตำรวจสืบทราบแล้วว่ามีบอสเป็นชาวจีนและเมียบอสเป็นชาวลาว ซึ่งสั่งการอยู่ประเทศเพื่อนบ้านให้ชาวลาวข้ามฝั่งมาคุมม้ากดเงินในฝั่งไทย กระทั่งมาถูกจับกุมได้ก่อน

...




สำหรับตำรวจภูธรภาค 5 (ภ.5) นั้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2598 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้สามารถจับกุมม้ากดเงินเชื่อมโยงเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์จีนเทาได้ 3 ครั้งแล้ว สามารถยึดเงินสดคืนผู้เสียหายได้ 5 ล้านกว่าบาท.

...