"บิ๊กเต่า" ยันยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไม่ผิดวินัย เชื่อตนเองคงไม่ได้เลื่อนยศเป็น "พลตำรวจโท" แล้วในปีนี้ แต่ขอให้พิจารณาตำรวจนายอื่น ๆ ที่มีผลงานโดดเด่น และหากย้ายตนเองไปหน่วยอื่นก็ต้องมีเหตุผลที่เหมาะสม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ดร.สุปรีดิ์ วงศ์ดีพร้อม รองประธานมูลนิธิการแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมผู้แทนคณะนักศึกษาหลักสูตรวัคซีนชีวิตเพื่อสังคม เข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ กรณีที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมกระบวนการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ
ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นการมอบดอกไม้ให้กำลังใจ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ถึงกรณีที่มีการเลื่อนประชุม ก.ตร. ไปเป็นวันที่ 31 ส.ค. โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่า เหตุที่มีการเลื่อนประชุม ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการที่ตนไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมอย่างเดียว แต่เป็นเพราะมีตำรวจหลายนายไปยื่นขอความเป็นธรรมเช่นกัน
ตนเป็นระเบิดพลีชีพไปแล้ว สู้กับผู้ใหญ่ไปแล้ว เชื่อว่าคงไม่ถูกเสนอชื่อเลื่อนตำแหน่งในการพิจารณา แต่ตนจะไม่เกเร ไม่เกียร์ว่าง ยังคงทำงานสืบสวนเกี่ยวกับคดีทุจริตต่อไป เพียงแต่ที่ออกมาต่อสู้ เพื่อให้คนที่มีความรู้ความสามารถได้รับความเป็นธรรม เช่น พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. ที่ทำคดีพนันออนไลน์ "ก๊กอาน" มากกว่า
ยืนยันว่าการร้องขอความเป็นธรรมครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องผิดวินัย เพราะไม่เคยพูดไม่ดีถึงผู้บังคับบัญชา เพียงแค่กระตุกเตือนให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสัมภาษณ์ผู้ที่มีสิทธิ์เลื่อนตำแหน่งอย่างเป็นธรรม พิจารณาที่ผลงานอย่างแท้จริง ไม่ว่าผลงานนั้นจะได้รับการเสนอข่าวหรือไม่ ไม่ใช่แค่เลื่อนตำแหน่งให้กับคนใกล้ชิด หรือเพื่อนรุ่นเดียวกัน เรื่องนี้ไม่ได้มีการเมืองอยู่เบื้องหลัง
นอกจากนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังยอมรับด้วยว่า เคยได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเร็วขึ้นเป็นผู้บังคับการภายในระยะเวลา 3 ปี จากที่ต้องดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการให้ครบ 5 ปี เนื่องจากขณะนั้นรัฐบาลทหารประกาศใช้มาตรา 44 และต้องการบุคคลที่มีความสามารถเข้ามาจัดการปัญหาทุจริตต่าง ๆ จึงได้รับเลือก ไม่ได้มีการวิ่งเต้นใด ๆ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ได้เลื่อนตำแหน่งเร็วในช่วงที่เป็นรองผู้กำกับและผู้กำกับด้วยนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้หากการประชุม ก.ตร. ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 31 ส.ค. นี้ และมีผลให้ตนถูกโยกย้ายไปอยู่สังกัดอื่น คณะกรรมการ ก.ตร. จะต้องมีเหตุผลชี้แจงตนอย่างเหมาะสมว่าเหตุใดจึงสั่งย้าย เพราะคดีสำคัญเกี่ยวกับการทุจริตที่ตนดูแลอยู่ ยังมีอีกมาก และไม่มีใครกล้าทำคดีเหล่านี้
...