เจ้าหน้าที่ร่วมกันแถลงข่าวยึดยาบ้าบิ๊กล็อต 1.2 ล้านเม็ด มูลค่าขายปลีกกว่า 60 ล้านบาท หลังมีคนพบถุงกระสอบปริศนา 3 กระสอบวางในที่เปลี่ยว พร้อมเผยกลพ่อค้ายาเสพติดพัฒนารูปแบบการส่งมอบยาบ้าแยบยลมากขึ้น


วันที่ 26 ส.ค. 68 เวลา 14.00 น. ที่ สภ.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พล.ต.ต.สาระนัย คงเมือง ผบก.ภจว.พช. นายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอหล่มสัก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานร่วมแถลงข่าวการยึดยาบ้าล็อตใหญ่จำนวน 1,200,000 เม็ด มูลค่ากว่า 9,600,000 บาท

โดยการตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ครั้งนี้ถูกพบช่วงเวลา 07.00 น.ของเช้าวันเดียวกันนี้ โดยมีพนักงานการไฟฟ้าสาขาหล่มสักได้พบถุงกระสอบปริศนาจำนวน 3 กระสอบถูกนำมาวางไว้ที่ข้างกองเสาไฟฟ้าที่เตรียมจะดำเนินการไปติดตั้งซึ่งวางอยู่ข้างถนนสายลานบ่า-ดงขวาง ทางไปสนามบินหล่มสัก หมู่ 9 ต.บุ่งน้ำเต้า อำเภอหล่มสัก เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ภายหลังรับแจ้ง พ.ต.อ.ธนกร ทิพย์ศิริ ผกก.สืบสวน ภ.จว.เพชรบูรณ์ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดและเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภจว.พช.เข้าตรวจสอบพร้อมตรวจยึดของกลางนำส่งสภ.หล่มสัก

...

ด้าน พล.ต.ต.สาระนัย คงเมือง ผบก.ภจว.พช. เปิดเผยว่า พ่อค้ายาเสพติดได้พัฒนารูปแบบการส่งมอบยาบ้าให้หลุดรอดสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความแยบยลมากขึ้น โดยจะใช้วิธีการว่าจ้างตัวกลางรับจ้างส่งและรับยาบ้าที่จะตัดตอนไม่ให้ถึงตัวผู้ซื้อและผู้ขาย และไม่นำส่งถึงตัวของผู้ขนส่งทั้งสองฝ่าย โดยจะให้คนนำส่งหรือเรียกว่านักบินนำยาบ้าไปวางตามจุดที่สะดวกและเปลี่ยวห่างไกลผู้คนในห้วงเวลากลางคืน และแจ้งให้นักบินอีกฝ่ายมารับยาบ้าตามจุดที่นำยาบ้ามาวางไว้ โดยที่ทั้งสองฝ่ายจะไม่พบเจอหน้ากัน ซึ่งยาบ้าชุดนี้มีมูลค่าการซื้อขายในตลาดค้ายาบ้าในราคาขายส่งเม็ดละ 8 บาท มูลค่ากว่า 9,600,000 บาท และถ้าไปจำหน่ายขายปลีกแก่ผู้เสพในราคาเม็ดละ 50 บาท ก็จะมีมูลค่าสูงถึง 60 ล้านบาท 

ส่วนต้นตอของยาบ้าล็อตนี้น่าจะถูกลำเลียงส่งมาจากประเทศเพื่อนบ้านฝั่งประเทศลาว จากนั้นจึงได้ลักลอบนำข้ามชายแดนไทย-ลาวผ่านจังหวัดเลยและส่งต่อกันเป็นทอดๆ ไปตามจังหวัดต่างๆ ส่งจำหน่ายผู้เสพในภาคกลางตอนในรวมถึงกรุงเทพมหานคร.


อ่านข่าว "อาชญากรรม" ทั้งหมดที่นี่