ตำรวจประชุมตรวจสอบกรณีอุบัติเหตุรถหรู 11 คันชนกันบนทางด่วนศรีรัช-อุดรรัถยา พบหลายคันที่เข้าข่ายการแข่งขันประลองความเร็วกันบนทาง อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อความชัดเจนในการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
จากกรณีเกิดเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันระเนระนาด จำนวน 11 คัน บนทางด่วนอุดรรัถยา ฝั่งขาออก ใกล้ทางขึ้นด่วนเมืองทองธานี มุ่งหน้าบางปะอิน ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นบนโลกโซเชียลว่ามีการประลองความเร็วกันกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
...
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ส.ค. 68 ที่ห้องประชุม สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.บรรจบ ราชกิจ สวป.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.อิทธิพัทธ์ กุลรัศมิ์ชลากร รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.ฤทธิ์ธรักษ์ นามคำสวัสดิ์ สวป.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.ฐาปณพงษ์ พึ่งมี สว.จร.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ต.ดิลก ลาดศิลา สว.สส.สภ.ปากเกร็ด ร.ต.ท.สุรชัย สายชลนิรันดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุรถชนบนทางด่วน 11 คัน และวางแนวทางการป้องกันการแข่งรถในพื้นที่ โดยใช้เวลาในการประชุมราว 1 ชั่วโมง
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พ.ต.อ.จักรพงศ์ กล่าวว่า สำหรับในเรื่องนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบปากคำผู้ขับขี่รถเก๋ง BMW ไปแล้ว 1 คัน ในส่วนที่เหลือจะทยอยเรียกมาให้ปากคำ ในส่วนเรื่องพยานหลักฐานได้ให้ทางชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ดำเนินการตรวจสอบกล้องตรวจจับความเร็วและวงจรปิดเพื่อใช้เป็นหลักฐานว่ารถแต่ละคันที่ขับมาในทางมีการใช้ความเร็วมากน้อยเพียงใด เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ และพฤติกรรมการขับขี่ของรถแต่ละคันมีลักษณะเป็นการแข่งขันกันหรือไม่ มาประกอบหลักฐานว่ามีรถคันใดเข้าข่ายกระทำผิด ซึ่งรถที่เกิดอุบัติเหตุที่ยึดไว้ตรวจสอบทั้งหมด 11 คัน ในส่วนนี้มีหลายคันที่รถมีลักษณะแต่งซิ่ง
เบื้องต้นจากการตรวจสอบมีรถหลายคันที่เข้าข่ายการแข่งขันประลองความเร็วกันบนทาง โดยพบจุดเริ่มต้นที่มีการรวมตัวกันบริเวณปั๊มน้ำมันใกล้ด่านประชาชื่น จากนั้นได้ขับออกมาตามกันมาเป็นกลุ่มบนทางด่วนศรีรัช-อุดรรัถยา มุ่งหน้าบางปะอิน กระทั่งมาเฉี่ยวชนกันตรงจุดเกิดเหตุ ในส่วนนี้ทางตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาความชัดเจนในการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป