***ภาพจากแฟ้ม***
ศาลอุทธรณ์ ยกคำร้อง ไม่ให้ประกัน ทิดวิรัติ หรือ "อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร" ชี้ข้อหามีอัตราโทษสูง พนักงานสอบสวนคัดค้านการขอปล่อยชั่วคราว หวั่นยุ่งเหยิงพยานหลักฐานและหลบหนี
จากกรณี เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ยื่นคำร้อง ฝ.13/2568 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก นายวิรัติ วัชรสิทธิเมธี หรือ อดีตพระเทพวัชรสิทธิเมธี อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร อายุ 60 ปี ผู้ต้องหา คดีเป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
ต่อมา นายวิรัติ หรือ อดีตพระเทพวัชรสิทธิเมธี ผู้ต้องหา ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ยกคำร้อง จากนั้นทนายความผู้ต้องหา ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งการยื่นประกันตัวของนายวิรัติ ว่า พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นการเสียหายต่อรัฐหรือทรัพย์สินของรัฐ มีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก และข้อหามีอัตราโทษสูง กรณีเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการขอปล่อยชั่วคราว หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว มีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานและหลบหนี คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
...
ทั้งนี้ นายวิรัติ หรือ อดีตพระเทพวัชรสิทธิเมธี ผู้ต้องหา ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร