ตร.ไซเบอร์ ทลายออฟฟิศรับจำนำโทรศัพท์ ฝังโปรแกรมควบคุม MDM ที่ซื้อมาจากกลุ่มนายทุนจีน หากใครเบี้ยวหนี้ล็อกเครื่องทันที หวั่นสุ่มเสี่ยงข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 ส.ค. 68 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ พ.ต.อ.ชัยรัตน์ วรุณโณ รอง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.วิศรุตม์ จันทร์สุวรรณ ผกก.1 บก.สอท.2 พ.ต.ท.โรจน์ศักดิ์ นัยผ่องศรี รอง ผกก.1 บก.สอท.2 พ.ต.ท.ชยกฤต จันหา สว.กก.1 บก.สอท.2 นำกำลังตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุดในพื้นที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังพบว่ามีการเปิดรับจำนำโทรศัพท์มือถือในรูปแบบใส่โปรแกรมควบคุมการทำงานโทรศัพท์ เพื่อปล่อยกู้เงินเรียกดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด

สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวน กก.1 บก.สอท.2 สืบสวนพบมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี "นักเลงมือถือ สาขาโคราช" ได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีการเปิดสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ โดยแจ้งว่าหากผู้ใดสนใจที่จะกู้ยืมให้ทักเข้าไปในเฟซบุ๊ก ชื่อ "ราชาเงินผ่อน สาขารังสิต" โดยการกู้ผู้กู้จะต้องแจ้งบริการ "ไอคลาวด์ แลกเงิน" ซึ่งเป็นการกู้เงินโดยการนำระบบ MDM (Mobile Device Management) หรือระบบจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ เป็นระบบที่ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการ ควบคุม และรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ ใส่ไว้ในเครื่องให้ผู้กู้ไว้เป็นประกัน พร้อมทั้งทำสัญญาซื้อขายต่ำกว่าราคาตลาดแอบแฝง เมื่อผู้กู้หากไม่ชำระหนี้ตามกำหนดหรือผิดสัญญาไม่ชำระเงิน จะถูกผู้ให้กู้แก้ไขข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ ผู้กู้เจ้าของโทรศัพท์ก็จะต้องถูกล็อกทำให้โทรศัพท์ไม่สามารถใช้งานได้

จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นศาลจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ จ.ปทุมธานี พร้อมกันทั้ง 3 จุด โดยจุดที่ 1 ตำรวจเข้าค้นร้านนักเลงมือถือ สาขาซอยรังสิตภิรมย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จุดที่ 2 บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านย่านคลอง 1 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และจุดที่ 3 บ้านอีกหลังในซอยรังสิตภิรมย์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

...

จุดที่น่าสนใจเป็นการตรวจค้นร้านนักเลงมือถือ ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์สามชั้น เปิดเป็นรูปแบบออฟฟิศ พบว่าเปิดเป็นร้านโทรศัพท์มือถือ ประกอบกิจการ ซื้อ ขาย ฝาก ผ่อน เช่าโทรศัพท์ โดยมีนายจิราธิวัฒน์ สกลวัฒนโภคิน อายุ 38 ปี ชาว จ.ปทุมธานี รับเป็นผู้ดูแล โดยชั้นหนึ่งและชั้นสามเป็นสำนักงาน มีพนักงานกว่า 10 คนกำลังนั่งทำงานอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์ ส่วนชั้นสองเป็นที่เก็บกล่องโทรศัพท์มือถือที่ปล่อยให้เช่าซื้อและฐานข้อมูลลูกค้า


พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวน กก.1 บก.สอท.2 ตรวจพบว่ามีการโพสต์ข้อความ และเชิญชวนเงินกู้นอกระบบ โดยวิธีการคือ ผู้กู้จะต้องเอาโทรศัพท์มาให้เพื่อเป็นหลักประกันและตีราคา จากนั้นทางร้านจะติดตั้งโปรแกรมที่ใช้สำหรับควบคุมสั่งการโทรศัพท์ ก่อนคืนโทรศัพท์ให้กับผู้กู้ไปใช้ตามปกติ เมื่อถึงกำหนดเวลานัดหมายในการคืนเงินหากผู้กู้ไม่สามารถนำเงินต้นมาจ่ายได้ก็จะต้องจ่ายดอกเบี้ยตามที่กำหนด โดยระหว่างที่มีการจำนำโทรศัพท์จะให้เจ้าของโทรศัพท์มือถือใช้งานได้เฉพาะแอปพลิเคชันไลน์เพื่อติดต่อกับผู้ให้กู้ กับแอปพลิเคชันของธนาคารเท่านั้น ส่วนแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่อยู่ในเครื่องจะไม่สามารถใช้งานได้ทั้งหมด แต่หากผู้กู้ผิดชำระนัดและไม่สามารถติดต่อได้หรือเบี้ยวหนี้ ก็จะทำการล็อกโทรศัพท์ไม่ให้ใช้งานผ่านโปรแกรม MDM ที่ทำการติดตั้งไป

จากการสอบสวน นายจิราธิวัฒน์ ให้การว่าได้เช่าซื้อโปรแกรม MDM มาจากกลุ่มนายทุนจีน ซึ่งจากนี้จะทำการขยายผลถึงต้นตอของกลุ่มทุนจีนดังกล่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่ามีลูกค้ากว่า 5,000 ราย มีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาทต่อเดือน

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนขยายผลตรวจสอบระบบฐานข้อมูลในคอมพิวเตอร์อย่างละเอียด เนื่องจากมีการติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวในโทรศัพท์มือถือของผู้ที่นำโทรศัพท์มาจำนำนั้น เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการถูกนำข้อมูลส่วนบุคคลนำไปใช้ก่ออาชญากรรมทางออนไลน์ หรือข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลโดยที่เจ้าของข้อมูลไม่รู้ตัวว่ามีการนำไปในการก่อเหตุอาชญากรรมทางออนไลน์

เบื้องต้นตำรวจดำเนินคดีในความผิดฐาน “ให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดและประกอบธุรกิจให้สินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต” อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พุทธศักราช 2560 มาตรา 4 ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ลงวันที่ 26 มกราคม 2515 ข้อ 5 ข้อ 16 ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (เรื่องสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ) ฉบับลงวันที่ 9 มิถุนายน 2558