ผบก.ภ.จว.นนทบุรี แถลงผลปฏิบัติการ “สืบภาค 1” รวบแก๊งคนจีนตระเวนเจาะตู้เซฟในหมู่บ้านหรู ย่านปากเกร็ด กวาดทรัพย์สินกว่า 1.6 ล้าน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 สิงหาคม 2568 ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.อ.พูนสุข เตชะประเสริฐพร ผกก.1 บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.จิรายุส วานิชกูล ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจน์ฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการรวบแก๊งคนจีนตระเวนเจาะตู้เซฟในหมู่บ้านหรูย่านปากเกร็ด กวาดทรัพย์สินกว่า 1.6 ล้าน
พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวว่า ในคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 Mrs. JULIE LYNNE BEEYON อายุ 49 ปี สัญชาติแคนาดา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยตู้เซฟ ภายในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางตลาด ขณะปิดบ้านเดินทางไปทำธุระต่างจังหวัด ในช่วงระหว่างวันที่ 20-30 กรกฎาคม 2568 โดยมีทรัพย์สินที่เก็บไว้ในตู้เซฟสูญหาย ประกอบด้วยเครื่องประดับต่างๆ อาทิ แหวนทอง, นาฬิกาโรเล็กซ์, ต่างหู และเอกสารสำคัญหลายอย่าง รวมมูลค่ากว่า 1,600,000 บาท
...
ต่อมา พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน ภ.1 ทำการสืบสวนแกะรอยจนทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้เป็นชาวจีน มีนาย MR.LIU LAIXIANG อายุ 35 ปี สัญชาติจีน เป็นหัวหน้าแก๊ง มีที่พักอาศัยอยู่ย่านลาดกระบัง กรุงเทพฯ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับ ที่ จ.993/2568 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2568 พร้อมกับขออนุมัติศาลอาญาออกหมายค้น ที่ ค.614/2568 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2568
โดยตำรวจชุดสืบสวน ภ.1 และตำรวจสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง 1 นำกำลังค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ เข้าจับกุมผู้กระทำผิด 4 ราย ประกอบด้วย MR.LIU LAIXIANG อายุ 35 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.993/2568 MR.YA ZUJIANG อายุ 48 ปี MR.LI FEI อายุ 34 ปี สัญชาติจีน และ MR.WEI QINGYOU อายุ 37 ปี สัญชาติจีน พร้อมตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย รถจยย. 3 คัน เงินสด 2 หมื่นบาท โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง ธนบัตรสกุลต่างประเทศ รวม 205 ฉบับ นาฬิกาแทคฮอยเออร์ 2 เรือน อุปกรณ์เครื่องมือช่างที่ใช้ในการก่อเหตุและอื่นๆ รวม 42 รายการ
พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจากการสอบสวน MR.LIU LAIXIANG กับพวกยังให้การปฏิเสธ จากการสืบสวนทางตำรวจมีพยานหลักฐานในการเอาผิดกลุ่มชาวจีนที่กระทำผิดกลุ่มนี้ โดยพบว่าผู้กระทำผิดทั้ง 4 ราย เดินทางมาจากประเทศจีนผ่านทางประเทศลาวเข้ามาประเทศไทยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย คนละหลายครั้ง โดยเฉพาะ MR.LIU LAIXIANG พบว่ามีการเข้ามายังประเทศไทย รวม 27 ครั้ง โดยขึ้นรถโดยสารประจำทางเดินทางต่อมายังกรุงเทพฯ มาเช่าบ้านพักอาศัยกันเป็นกลุ่ม โดยมีพฤติกรรมขี่ จยย.ออกตระเวนไปตามโครงการบ้านหรู เพื่อหาบ้านเป้าหมายที่ไม่มีผู้พักอาศัยในการเข้าโจรกรรมทรัพย์สิน กระทั่งปีนรั้วเข้ามาในบ้านของผู้เสียหาย ซึ่งติดกับที่รกร้าง โดยงัดหน้าต่างชั้นล่าง ก่อนขึ้นไปยกตู้เซฟใบเล็กของผู้เสียหายที่อยู่บนชั้นสองขึ้นจยย.หลบหนีไป
นอกจากนี้ยังพบว่าในระยะเวลาห่างกันเพียง 1 สัปดาห์ คนร้ายชาวจีนกลุ่มเดียวกันนี้ยังพยายามโจรกรรมเอาทรัพย์สินในตู้เซฟ ภายในบ้านอีกหลังหนึ่งในหมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งเจ้าของบ้านเป็นหญิงระดับเศรษฐีชาวอเมริกัน โดยคนร้ายพยายามทำลายตู้เซฟแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากเป็นตู้เซฟขนาดใหญ่ โดยทางตำรวจเตรียมขยายผลกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีนรายนี้ เชื่อว่าน่าจะมีการลงมือก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง
โดยตำรวจได้ดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า ในเคหสถาน โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือร่วมกันรับของโจร”
...