นนทบุรี ตำรวจไซเบอร์ แถลงรวบเครือข่ายปลอมเพจ “โอ้กะจู๋” หลอกลงทุนกว่า 5 แสน อายัดทันคืนผู้เสียหาย 3.5 แสนบาท

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.กฤตัสญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.สมชาย ธีรภัทรไพศาล รอง ผบก.สอท.4 ร่วมกันแถลงผลรวบเครือข่ายปลอมเพจ “โอ้กะจู๋” หลอกลงทุนเสียหายกว่า 5 แสน อายัดทันคืนผู้เสียหาย 3.5 แสนบาท

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ในคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 68 ได้มีผู้เสียหายเป็นหญิงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 68 ผู้เสียหายได้พบเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อ “โอ้กะจู๋” มีการโฆษณาเปิดลงทุนมีผลตอบแทนดี ผู้เสียหายเกิดความสนใจเนื่องจากเป็นแฟนพันธุ์แท้และชื่นชอบในแคมเปญ “ปลูกผักและรักแม่” จึงทำการติดต่อ ปรากฏว่ามีคนร้ายได้ติดต่อผู้เสียหายผ่านทางแมสเซนเจอร์ จากนั้นได้ให้แอดไลน์ซึ่งมีชื่อว่าฝ่ายบริการ AJK ซึ่งจะมีการส่งข้อมูลการลงทุนให้กับผู้เสียหายโดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยจะมีไลน์ชื่อนายธนเดช ที่อ้างตัวว่าเป็นโบรกเกอร์แนะนำให้ผู้เสียหายลงทุน

จากนั้นได้ส่งลิงก์ตลาดทรัพย์ปลอมให้ผู้เสียหายลงทุน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงเริ่มโอน ซึ่งทางกลุ่มมิจฉาชีพมีการอัปเดตข้อมูลผลกำไรที่ได้อยู่ตลอดเวลาทำให้ผู้เสียหายเชื่อว่าได้ผลกำไรนั้นจริงจึงโอนเงินไปลงทุนเพิ่มอีก รวมจำนวน 6 ครั้งเป็นเงินกว่า 567,980 บาท แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ โดยคนร้ายอ้างว่าต้องโอนจ่ายค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติมเพื่อทำการปลดล็อกระบบก่อน จึงจะถอนเงินได้ ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวง ก่อนเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับคนร้าย

...




ต่อมา พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 พร้อมทีมสืบสวน ทำการสืบสวนจนทราบว่านายสุพัฒน์ ไชยยุทธ อายุ 23 ปี ชาว จ.พัทลุง เป็นผู้ร่วมในขบวนการเปิดบัญชีม้ารองรับการโอนเงินจากเหยื่อ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับที่ 3005/2568 โดยติดตามจับกุมได้ในพื้นที่อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

จากการสอบสวนนายสุพัฒน์ ให้การยอมรับว่าได้เปิดบัญชีธนาคารขายให้นายหน้ารับซื้อบัญชี โดยไม่รู้ว่านำมาใช้ในการกระทำผิด

โดยชุดสืบสวนได้ดำเนินการติดตามอายัดเงินจากบัญชีคนร้ายได้ทั้งสิ้นจำนวน 3.5 แสนบาท จากการตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินในบัญชี พบว่าเป็นเงินของผู้เสียหายจากการถูกคนร้ายในกลุ่มขบวนการนี้หลอกให้โอนเงินเข้าบัญชี ทางตำรวจไซเบอร์ได้ดำเนินการประสานผู้เสียหายเพื่อคืนเงินที่อายัดไว้ได้เป็นเช็คเงินสด 3.5 แสนบาท