ผบ.ตร. ชี้แจงกรณี อดีตรอง ผบ.ตร. ร้องศาลปกครองสูงสุดขอความเป็นธรรม ยันไม่ก้าวล่วงการพิจารณาของตุลาการ ระบุให้ความเคารพทั้งต่อกระบวนการยุติธรรม และต่ออดีตรอง ผบ.ตร. ที่ได้ใช้สิทธิทางกฎหมายอย่างเต็มที่
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีถูกคำสั่งให้ออกจากราชการ โดยกล่าวหาว่าคำสั่งดังกล่าวมิชอบด้วยกฎหมาย พร้อมขอให้ตรวจสอบและดำเนินการทางวินัยกับตุลาการเจ้าของสำนวน ฐานมีพฤติกรรมฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงว่า เป็นสิทธิของอดีตรอง ผบ.ตร. ในการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า เรื่องนี้เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า เป็นสิทธิของอดีตรอง ผบ.ตร. ที่จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง ตนในฐานะข้าราชการตำรวจและหัวหน้าหน่วย ไม่สามารถเข้าไปก้าวล่วงการพิจารณาของตุลาการแต่ละท่านได้ เพราะตุลาการล้วนเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ในวิชาชีพอย่างลึกซึ้ง
“แม้ตนจะเป็นผู้รักษากฎหมาย แต่ต้องยอมรับว่าไม่อาจเทียบเคียงกับองค์ความรู้ของตุลาการได้ ไม่ว่าผลการพิจารณาจะออกมาอย่างไร พร้อมน้อมรับคำตัดสินด้วยความเคารพอย่างสูง และจะไม่วิพากษ์วิจารณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น”
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ย้ำว่า ตุลาการไม่ว่าจะอยู่ในศาลใด ต่างเป็นผู้มีความรู้ทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย มีความมั่นคงในวิชาชีพ และสามารถวิเคราะห์พิจารณาคดีได้อย่างเป็นธรรม ตนให้ความเคารพทั้งต่อกระบวนการยุติธรรม และต่ออดีตรอง ผบ.ตร. ที่ได้ใช้สิทธิทางกฎหมายอย่างเต็มที่
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ไม่ว่าผลคำพิพากษาจะออกมาในทางใด สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมจะน้อมรับ และดำเนินการตามแนวทางบริหารงานบุคคลให้เหมาะสม เพื่อให้การขับเคลื่อนขององค์กรยังเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่มีความวิตกกังวลใด ๆ ต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากคดีดังกล่าว พร้อมย้ำว่าตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และความเป็นมืออาชีพของตุลาการทุกท่าน ซึ่งต่างมีเอกสิทธิ์และดุลยพินิจในหน้าที่และตนเคารพในสิ่งนั้นอย่างสูง
...