ปทุมธานี “สอบสวนกลาง” บุกห้องเย็นย่านคลองหลวง ยึดซากเนื้อวัวลอบนำเข้า 41 ตัน ส่งกระจายซากไปยังตลาดและร้านอาหารในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล โดยตรวจพบร่องรอยแช่ฟอร์มาลีน เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.บก.ปคบ. สั่งการให้ พ.ต.อ.ธนาทัศน์ ศรีพิพัฒน์ รรท.ผกก.2 บก.ปคบ. พ.ต.ท.ศิษฏพงศ์ สิริวัฒน์ สว.กก.1 บก.ปคบ. พ.ต.ต.พีรดนย์ คงทัพ สว.กก.2 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ เข้าตรวจค้นห้องเย็นภายในซอยริสกี และซอยอะลา ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังสืบทราบว่าลักลอบเก็บรักษาและกระจายซากเนื้อสัตว์นำเข้าผิดกฎหมายไปยังตลาดและร้านอาหารในเขตปริมณฑล รวมถึงกรุงเทพมหานคร
...
จากการตรวจสอบพบซากเนื้อโคแช่แข็งต่างประเทศ และไม่มีบรรจุภัณฑ์ ไม่ทราบแหล่งที่มา จำนวน 41,771.85 กก. (จุดที่ 1), 537 กก. (จุดที่ 2) พร้อมกันนี้ยังพบวัตถุของเหลวบรรจุในถังพลาสติกสีดำ ฉลากระบุ “สารละลายฟอร์มาลดีไฮด์สำหรับอุตสาหกรรม” จำนวน 9 ถัง (จุดที่ 1) รวมมูลค่าของกลางทั้งหมดประมาณ 4,230,800 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไท กรมปศุสัตว์ ได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นห้องเย็น 4 จุด ในพื้นที่ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่าเป็นแหล่งลักลอบเก็บรักษาและกระจายซากเนื้อสัตว์นำเข้าผิดกฎหมายไปยังตลาดและร้านอาหารในเขตปริมณฑล รวมถึงกรุงเทพมหานคร
ซึ่งผลการตรวจสอบภายในห้องเย็น พบซากเนื้อโคแช่แข็งจำนวนมากกว่า 41 ตัน มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท จัดเก็บโดยไม่มีเอกสารแสดงแหล่งที่มาและเอกสารแสดงการนำเข้าตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ จากการตรวจสอบบรรจุภัณฑ์เนื้อสัตว์โดยส่วนใหญ่ระบุแหล่งที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นประเทศต้นทางที่มีการควบคุมการนำเข้าสินค้าประเภทเนื้อสัตว์อย่างเข้มงวด หากไม่ผ่านการตรวจรับรองโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือว่าผิดกฎหมายอย่างชัดเจน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบถังน้ำแข็งที่ใช้แช่เครื่องในสัตว์ ซึ่งอยู่ในสภาพผิดปกติ
...
เมื่อตรวจสอบใกล้เคียง พบถังพลาสติกบรรจุสารละลายฟอร์มาลดีไฮด์สำหรับอุตสาหกรรม (หรือฟอร์มาลีน) วางอยู่ในบริเวณเดียวกัน และจากการเปิดถังน้ำแข็งและตรวจสอบ พบว่าชิ้นส่วนเครื่องในสัตว์มีกลิ่นคล้ายฟอร์มาลีนอย่างชัดเจน ซึ่งไม่ถูกสุขลักษณะ เสี่ยงต่อสุขภาพผู้บริโภค เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการอายัดซากสัตว์ทั้งหมดไว้ในสถานที่เกิดเหตุ พร้อมแจ้งให้ผู้ครอบครองนำเอกสารแสดงความถูกต้องมาชี้แจงภายใน 15 วัน หากไม่สามารถแสดงเอกสารได้จะดำเนินการตามกฎหมายทันที โดยการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
...