เปิดคำรับสารภาพ สีกากอล์ฟ รสนิยมชอบพระผู้ใหญ่มาจากปมในอดีต ขาดความอบอุ่นจากชายสูงวัย หลังถูกพ่อทิ้งไปตั้งแต่ยังเด็ก เผยอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เป็นรักแรกเจ็บช้ำมากที่สุด แฉเส้นเงินอุปถัมภ์โอนเข้าไม่ขาดมือ ทำติดนิสัยฟุ่มเฟือย ช้อปปิ้งวันเดียว 3 ล้าน ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉ ถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพักก่อนบุกปล้ำกลางดึก ซ้ำถูกเบิกเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ของพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เบื้องต้นเจ้าตัวยอมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมยอมรับว่า ที่ผ่านมาเคยคบหาหรือมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่หลายรูปตามที่ปรากฏเป็นข่าวจริง ส่วนสาเหตุที่มักเลือกคบหากับพระชั้นผู้ใหญ่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตนมีปมในอดีตจากการที่ถูกพ่อทิ้งไปตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้โตมาในครอบครัวที่ขาดความอบอุ่น

น.ส.วิลาวัลย์ ยอมรับอีกว่า พระชั้นผู้ใหญ่รูปแรกที่ตนคบหา หรือที่เรียกว่าเป็นรักแรกกับพระ คือ อดีตพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และ เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง เริ่มคบหากันตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปี 2558 และการคบหากับอดีตพระรูปนี้ก็เป็นคนที่ทำให้ตนช้ำใจ หรือ เจ็บปวด มากที่สุดในบรรดาพระทั้งหมดที่เคยคบหา

นอกจากนี้ในส่วนของการสืบสวนขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินของ น.ส.วิลาวัลย์ เบื้องต้นพบมีบัญชีธนาคารส่วนตัวจำนวน 2 บัญชี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีพระชั้นผู้ใหญ่ รวมไปถึงคนทั่วไป โอนเงินเข้ามาให้เป็นจำนวนมาก รวมเป็นเงินกว่า 385 ล้านบาท และ จากการที่มีพระผู้ใหญ่ต่างๆ คอยเลี้ยงดูให้เงินใช้จ่ายไม่ขาดมือ จึงทำให้ น.ส.วิลาวัลย์ ติดนิสัยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหนักถึงขั้นเคยเดินช้อปปิ้งซื้อเสื้อผ้าของใช้แบรนด์เนมต่างๆ ในห้างสรรพสินค้าวันเดียวกว่า 3 ล้านบาท รวมถึงเล่นพนันออนไลน์ครั้งละ 5 แสนบาท โดยไม่ได้คำนึงถึงผลที่จะตามมาในภายหลัง จนทำให้ปัจจุบันนี้เหลือเงินติดบัญชีเพียงแค่ 8,000 บาท เท่านั้น

...




รายงานข่าวแจ้งอีกด้วยว่า จากกรณีที่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา อดีตพระมหาบุญเลิศ ช่วยธานี พระลูกวัด วัดใหม่ยายแป้น ซึ่งเป็นหนึ่งในพระที่ต้องลาสิกขาหลังจากมีชื่อเข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟนั้น ได้เดินทางมาเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของ สีกากอล์ฟ นั้น เบื้องต้นทราบว่าทาง อดีตพระมหาบุญเลิศ ได้มีการนัดหมายจะมาเข้าพบพนักงานสอบสวนตำรวจกองปราบ อีกครั้งภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสีกากอล์ฟ อ้างว่าตนเองถือเป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกกระทำจากสีกากอล์ฟ

โดย อดีตพระมหาบุญเลิศ อ้างว่า รู้จักกับสีกากอล์ฟผ่านทางอดีตพระปลัดสุรพล อดีตเจ้าอาวาสวัดพรหมเกษร จ.พิษณุโลก ซึ่งสนิทสนมกับสีกากอล์ฟ ก่อนที่ต่อมา สีกากอล์ฟจะพยายามเข้ามาตีสนิทตน โดยทำทีขอความช่วยเหลืออยากให้ตนมาหาที่บ้านพัก เพื่อให้ช่วยดูพระนางพญาให้ ซึ่ง 2-3 ครั้งแรกที่ไปยังไม่มีเรื่องราวเกินเลยแต่อย่างใด เนื่องจากตนเองก็พยายามระวังตัว ประกอบกับมีเด็กอยู่ในบ้าน

กระทั่งครั้งที่ 4 สีกากอล์ฟ ติดต่อมาอีกครั้ง เพื่อให้มาหาที่บ้านพักอีกครั้ง อ้างกับตนว่าลูกป่วย ตัวร้อน อยากให้ช่วยดู ด้วยความสงสารเด็กตนจึงตัดสินใจไป โดยมีการนอนค้างที่บ้านของสีกากอล์ฟ แต่แยกห้องนอน กระทั่งกลางดึกในขณะที่ตนกำลังนอนหลับอยู่ สีกากอล์ฟ ก็ได้บุกเข้ามาภายในห้องนอนแล้วโผเข้ากอดจูบลูบคลำตน ด้วยความขาดสติจึงเผลอใจปล่อยตัวร่วมหลับนอนด้วยกัน

อย่างไรก็ตามหลังเหตุการณ์วันนั้น ตนเองก็รู้สึกผิดที่ไม่หักห้ามใจ จึงตัดสินใจไม่รับเป็น “พระอุปัชฌาย์” ทำหน้าที่บรรพชาอุปสมบทให้กับพระใหม่อีกเลย นอกจากนี้สีกากอล์ฟยังเคยยืมเงินส่วนตัวของตนเป็นเงินกว่า 1 แสนบาท อ้างว่าป่วยไม่มีเงินหาหมอ ตนจึงให้ยืมไป แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้กลับคืน อย่างไรก็ตามจากเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด มองว่าตนเองก็ถือเป็นเหยื่อจากการกระทำดังกล่าวด้วยเช่นกัน