พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เรียกประชุมคณะทำงานคดี “ก๊กอาน” ตัวการใหญ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปต เตรียมขยายผลเอาผิดเพิ่ม ส่วนคดีคลิปเสียง “นายกฯ อิ๊งค์-ฮุน เซน” สัปดาห์หน้า เตรียมส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาเอาผิดฮุน เซน

จากกรณีตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 19 จุด ประกอบด้วยพื้นที่กรุงเทพฯ 4 จุด จ.สมุทรปราการ 14 จุด และ จ.ชลบุรี อีก 1 จุด ตามยุทธการ “ปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร” เครือข่าย “ก๊กอาน” สามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องในการกระทำผิด 14 ราย พร้อมตรวจยึดทรัพย์สิน อาทิ เงินในบัญชี 27 ล้านบาท บ้านพัก ห้องชุดในคอนโดหรูและทรัพย์สินอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด 10.30 น. วันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เรียกเจ้าหน้าที่พนักงานชุดสืบสวน คณะทำงานคดี ก๊กอาน และคดีคลิปเสียง สมเด็จฮุน เซนคุยกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมความคืบหน้าในการขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวในเครือข่ายส่วนที่เหลือ โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท.ไตรรงค์ เผยว่า สำหรับในคดี “ก๊กอาน” ทางกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้มีการขยายผลจากที่ก่อนหน้านี้ ตำรวจไซเบอร์ได้ปูพรม 19 จุด เปิดยุทธการปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร ทลายเครือข่ายก๊กอาน เจ้าพ่อ crown casino คนสนิทฮุนเซน ยึดรถหรู-เงิน 27 ล้านบาท

เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 บช.สอท. ได้มีคำสั่งที่ 172/2568 เรื่องแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวน เพื่อทำการสืบสวนคดีที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา บก.สอท.1 ที่ 22/2567, คดีที่ 287/2567 และคดีอาญา บก.สอท.4 ที่ 243/2568 ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกัน โดยมีการกระทำความผิดอันมีลักษณะขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ประกอบด้วยบุคคลหลายสัญชาติ มีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการอยู่ ณ สถานที่หลายแห่งในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา อาทิ อาคาร 25 ชั้น, อาคาร 18 ชั้น, อาคาร HISO และอาคาร Crown Casino

โดยกลุ่มคนร้ายใช้สถานที่ทำการหลอกลวงทางออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น Hybrid Scam, Call Center และการฟอกเงินผ่านบัญชีม้าและสกุลเงินดิจิทัล มีการใช้แรงงานคนไทยจำนวนมากที่ถูกหลอกไปทำงานในลักษณะบัญชีม้า พร้อมบังคับให้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันธุรกรรม และมีพฤติกรรมกักขังหน่วงเหนี่ยวบุคคลในต่างประเทศ ส่วนหลังจากนี้จะมีการออกหมายจับใครอีกหรือไม่ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาจากหลักฐานและการขยายผลเพิ่มเติม ส่วนจะเป็นใครและมีกี่ราย ขอยังไม่เปิดเผย

ในส่วนกรณีคลิปเสียงระหว่างสมเด็จฮุน เซนกับนายกฯ อิ๊งค์ ขณะนี้มีความคืบหน้าไปเยอะ และภายในสัปดาห์หน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จะนำสำนวนทั้งหมดส่งให้กับอัยการเป็นผู้พิจารณาในการเอาผิดสมเด็จฮุน เซน

...