ช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์ใช้ไม้คมแฝกกระหน่ำฟาดเพื่อนดับ ตำรวจตามตัวมาสอบเค้น ยอมรับลงมือทำไปเพราะเพื่อนเปิดก่อน ส่วนสาเหตุทะเลาะกันเรื่องอะไหล่แต่งรถ


วันที่ 13 ก.ค. 68 มีรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.วงศธร มรรคนันท์ รอง สว. (สอบสวน) ได้รับแจ้งความจากญาติๆ ของ นายสนธยา อายุ 33 ปี ชื่อเล่นว่า "ตูมตาม"

โดยระบุว่า นายสนธยา หรือ "ตูมตาม" ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต เมื่อช่วงเช้ามืดของวันเดียวกัน โดยผู้ก่อเหตุ หลังก่อเหตุทำร้าย ได้ขับรถนำร่างของนายสนธยา มาส่งที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ แต่เสียชีวิตในต่อมา เนื่องจากถูกของแข็งตีเข้าที่ศีรษะ และ กลางแผ่นหลัง ส่วนปมเหตุในครั้งนี้ไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร และอยากให้ตำรวจช่วยติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี


ต่อมาช่วงเวลา 13.00 น. (12 ก.ค.) พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก. สส. , พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ กาสา สว. สส. พร้อมชุดสืบสวน สภ.บางละมุง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยเริ่มจากการไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ขับรถนำร่างผู้ตายมาส่งหาหมอ จนทราบ รถยนต์คันที่ขับมาส่งเป็นรถกระบะแคป ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สตราด้า สีน้ำเงิน ทะเบียน ระยอง

...


ต่อมา ตำรวจมีการติดตามหารถกระบะคันดังกล่าว จนไปพบตัวคนขับ ทราบชื่อคือ นายสมเจตน์ อายุ 31 ปี อาชีพช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ และเป็นเพื่อนกับผู้ตาย โดยนายสมเจตน์ อยู่ที่บริเวณภายในซอยวัดทุ่งกราด ม.8 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนจะมีการเชิญตัวมาสอบปากคำที่ สภ.บางละมุง

ทั้งนี้ ตำรวจมีการสอบปากคำนานกว่า 2 ชม. สุดท้าย นายสมเจตน์ ก็ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือทำร้าย นายสนธยา หรือ "ตูมตาม" จนเสียชีวิต โดยก่อนเกิดเหตุ ช่วงเช้ามืด ตนเองได้ไปนั่งเล่นอยู่ที่ริมทางรถไฟ ภายในซอยวัดทุ่งกราด ซึ่งบริเวณจุดดังกล่าว เป็นจุดที่ตนชอบไปนั่งเล่นเป็นประจำ ระหว่างที่กำลังนั่งเล่นอยู่ นายสนธยา หรือ "ตูมตาม" ซึ่งเป็นเพื่อนและยังเป็นลูกค้าประจำ ชอบนำรถมอเตอร์ไซค์มาให้ตนเองแต่ง ได้เดินมาหา โดยในมือถือไม้คมแฝก ยาวเกือบ 1 เมตรมาด้วย ตนถามว่า ถือไม้มาทำอะไร ผู้ตายก็บอกว่า "ถือมาไว้ตีหมา" ตอนนั้นตัวเองไม่คิดเอะใจอะไร

ระหว่างที่ตนเองกับผู้ตายมีการพูดคุยกัน ผู้ตายได้พูดจาตำหนิกับตนว่า "อะไหล่ที่ร้านแพงจัง ร้านอื่นไม่เห็นแพงเท่านี้เลย แถมไปซ่อมร้านอื่นก็ถูกกว่า" พอตนได้ยินแบบนั้น ก็พูดสวนกลับไปว่า "งั้นก็ไปทำร้านอื่น ไม่ต้องมาทำร้านนี้" พอพูดจบ ผู้ตายก็เดินปรี่เข้ามาต่อย และใช้ไม้คมแฝกตีมาใส่ตนเอง แต่ตอนนั้นตนหลบทัน และไม้คมแฝกได้หลุดจากมือผู้ตาย ตนก็รีบคว้าไม้คมแฝกตีสวนกลับไป จนอีกฝ่ายล้มไปนอนกองกับพื้น ตนก็กระหน่ำตีซ้ำแบบไม่ยั้ง โดยจำไม่ได้ว่าตีไปกี่ครั้ง จากนั้นได้ยินเสียงอีกฝ่ายพูดว่า "ยอมแล้ว ขอโทษ" พอได้ยินดังกล่าว ตนเองจึงหยุดตี และดึงอีกฝ่ายขึ้นมานั่งคุย และมีการปรับความเข้าใจกัน


โดยตนเองบอกกับอีกฝ่ายว่า "ทำไมไม่คุยกันดีๆ พี่มาทำผมทำไม" พอเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที ตอนนั้นผู้ตายเริ่มมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ตนเองเห็นท่าไม่ดี จึงรีบขี่รถจักรยานยนต์มาเปลี่ยนเป็นรถกระบะ แล้วขับไปรับเพื่อจะพาไปโรงพยาบาล พอกลับมารับบริเวณทางรถไฟ ตนเองก็รีบพาขึ้นรถ แล้วนำส่งโรงพยาบาลทันที

จนกระทั่ง มาทราบว่า เพื่อนได้เสียชีวิต อีกทั้งตนไม่มีเจตนาจะหนี ตอนที่อยู่โรงพยาบาล ตนเองนั่งรอญาติผู้ตาย อยู่นานหลายชั่วโมง ก่อนจะตัดสินใจกลับบ้านไปตั้งหลัก จนกระทั่งมีตำรวจมาเชิญตรวจสอบปากคำ และก็ยอมรับว่าตนเองเป็นผู้ลงมือ ทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิต พร้อมทั้งอยากขอโทษผู้ตายและขอโทษครอบครัว โดยยืนยันว่าตนไม่มีเจตนาจะทำร้าย และไม่คิดว่า "จะตีเขาจนตาย" สิ่งที่ทำลงไป เป็นเพราะบันดาลโทสะ


เบื้องต้นตำรวจ ได้คุมตัว นายสมเจตน์ ไปชี้จุดที่เกิดเหตุ พร้อมกับยึดไม้คมแฝก ยาว 60 เซนติเมตร และ เสื้อผ้าที่ใส่ในวันเกิดเหตุ จากนั้นได้มีการสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา "ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย" ก่อนจะส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

...


ขณะที่ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่บริเวณทางรถไฟ ภายในซอยวัดทุ่งกราด พร้อมทั้งติดต่อไปหาญาติผู้ตาย เบื้องต้น ญาติผู้ตายยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ แต่ยืนยันว่ายังติดใจในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยไม่เชื่อว่า จุดเกิดเหตุจะอยู่ที่บริเวณทางรถไฟ และ ผู้ตายไม่มีเหตุจำเป็นจะขึ้นไปที่บริเวณดังกล่าว โดยเช้าวันนี้จะเดินทางไปรับศพผู้ตาย กลับมาบำเพ็ญกุศลศพ ที่ วัดทุ่งกราด และขอต่อสู้ทวงความยุติธรรมให้กับผู้ตาย.


อ่านข่าว "อาชญากรรม" ทั้งหมดที่นี่