ตำรวจไซเบอร์นำหมายจับ-หมายค้นปูพรมค้น 19 จุดใน กทม.-ชลบุรี-สมุทรปราการ เปิดยุทธการ ปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร ทลายเครือข่าย “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน เจ้าของตึกไฮโซ ตึก 18 ชั้น 25 ชั้น ฐานปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปต เป็น “มือขวาฮุนเซน” ยึดอายัดบ้านพักและคอนโด รวมทั้งเงินในบัญชีธนาคารของ “เชอร์รี่” ซึ่งเป็นลูกสาว จำนวน 27 ล้าน และรถหรู-กระเป๋าแบรนด์เนม

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 8 ก.ค. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.สุวัฒชัย ศรีทองสุข รอง ผบก.ตอท. สนธิกำลังตำรวจไซเบอร์และตม. เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 19 จุด ประกอบด้วยพื้นที่กรุงเทพฯ 4 จุด จ.สมุทรปราการ 14 จุด และ จ.ชลบุรีอีก 1 จุด ตามยุทธการ “ปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร” เครือข่าย “ก๊กอาน”

การตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปี 2567 ตำรวจไซเบอร์ได้เริ่มทำการสืบสวนหาตัวการใหญ่ในกลุ่มขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงคนไทยในรูปแบบต่างๆ สร้างความเสียหายนับหลายพันล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 บช.สอท. ได้มีคำสั่งที่ 172/2568 เรื่องแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวน เพื่อทำการสืบสวนคดีที่เกี่ยวเนื่องกับ คดีอาญา บก.สอท.1 ที่ 22/2567, คดีที่ 287/2567 และคดีอาญา บก.สอท.4 ที่ 243/2568

...

พบว่ากลุ่มขบวนการที่ก่อเหตุมีความเกี่ยวโยงกัน โดยมีการกระทำความผิดอันมีลักษณะขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ประกอบด้วยบุคคลหลายสัญชาติ มีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการอยู่ ณ สถานที่หลายแห่งในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา อาทิ อาคาร 25 ชั้น, อาคาร 18 ชั้น, อาคาร HISO และอาคาร Crown Casino โดยกลุ่มคนร้ายใช้สถานที่ทำการหลอกลวงทางออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ เช่น Hybrid Scam, Call Center และการฟอกเงินผ่านบัญชีม้าและสกุลเงินดิจิทัล มีการใช้แรงงานคนไทยจำนวนมากที่ถูกหลอกไปทำงานในลักษณะบัญชีม้า พร้อมบังคับให้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันธุรกรรม และมีพฤติกรรมกักขังหน่วงเหนี่ยวบุคคลในต่างประเทศ

จึงทำการสืบสวนจนพบหลักฐานว่า นายก๊กอาน (MR. Kok An) อายุ 71 ปี นักธุรกิจเจ้าของอาคารที่เปิดเป็นกาสิโน รวม 4 แห่ง ประกอบด้วย crown casino resort, อาคาร HISO ตึก 25 ชั้น และตึก 18 ชั้น ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดกับสมเด็จ ฮุน เซ็น ได้ตั้งฐานปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ริมชายแดนไทย ที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ที่หลอกลวงคนไทย สร้างความเสียหายนับพันล้านบาท จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับที่ 3924/2568 ลง 7 ก.ค.68 เพื่อติดตามจับกุมนายก๊กอาน ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในความผิดฐาน “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”

โดยพบหลักฐานว่านายก๊กอานและบุคคลใกล้ชิดได้ครอบครองบ้านพักโครงการหรูและคอนโดมิเนียมหรูนับสิบแห่งรวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ จ.สมุทรปราการ และ จ.ชลบุรี ซึ่งบ้านแต่ละหลังมีราคานับสิบล้านบาท ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายค้น จนนำไปสู่การเปิดปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องพร้อมกันทั้ง 19 จุด

โดยเป้าหมายสำคัญตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านหรูสองชั้นราคากว่า 30 ล้าน เลขที่ 77 ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านพักของนายก๊กอาน และนางจุรี คล่องกิจกล หรือ เชอร์รี่ อายุ 42 ปี บุตรสาวของนายก๊กอาน

โดยพบว่าบ้านปิดล็อคไม่มีผู้อาศัย ก่อนประสานให้ผู้ดูแลนำตรวจค้นเพื่อหาพยานหลักฐาน เบื้องต้นทราบว่านายก๊กอานเข้ามาพักอาศัยเป็นครั้งคราว โดยครั้งสุดท้ายเข้ามาพักที่บ้านดังกล่าวราว 1 สัปดาห์ ก่อนเดินทางไปไต้หวัน ส่วนบ้านพักหลังอื่น พบว่ามีการปล่อยให้ชาวจีนมาเช่าพักอาศัยอยู่กันเป็นครอบครัว ซึ่งทางตำรวจได้ทำการสอบสวนและตรวจเอกสารผู้ที่พักอาศัยทุกรายอย่างละเอียด เพื่อหาข้อมูลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ปฏิบัติการวันนี้ตำรวจไซเบอร์ และตม. ได้ร่วมกันเข้าตรวจค้นบ้านพักรวม 19 จุด โดยทุกจุดมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานที่ตั้งในประเทศเพื่อนบ้าน สืบเนื่องจากทางตำรวจไซเบอร์ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายก๊กอาน หรือ MR. Kok An ในความผิด “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” ซึ่งเป็นการออกหมายจับ หลังจากที่มีการขยายผลเพิ่มเติมจากคดีต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นคดี ภูริคาสิโน ซึ่งผู้เสียหายถูกหลอกให้ลงทุนสูญเสียเงินไป 300 กว่าล้าน เช่นคดีของ น.ส.ชาลอต และคดีล่าสุดที่มีคุณหมอจังหวัดเชียงราย ถูกหลอกลวงไปกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งในการสืบสวนและที่จับกุมผู้ต้องหาได้ และรับสารภาพแบบเดียวกันว่า ได้เดินทางไปสแกนใบหน้าที่ตึก 25 ชั้น, ตึก 18 ชั้น อาคาร HISO และอาคาร Crown Casino ที่ปอยเปต กัมพูชา เราจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสารและพยานต่างๆ ที่เราสามารถรวบรวมได้ไปขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายก๊กอาน หรือ MR. Kok An ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารที่พักทั้งหมด

...

สำหรับปฏิบัติการมีการตรวจค้นพร้อมกันทั้งหมด 19 จุดรวม 3 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ จ.ชลบุรี และ จ.สมุทรปราการ

และจากการตรวจค้นในวันนี้ พบว่าผู้ต้องหามีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่เป็นเจ้าของสถานที่ทั้ง 19 จุดที่ทำการตรวจค้น แต่ยังไม่สามารถแจงรายละเอียดได้ เนื่องจากบางหลังมีคนอยู่ มีคนดูแล บางหลังไม่มีคนดูแล เนื่องจากเป็นบ้านที่เพิ่งซื้อมา โดยได้ทำการอายัดบ้านพักและห้องพักในคอนโดมิเนียมทั้ง 19 จุด อีกทั้งได้ทำการอายัดเงินในบัญชีธนาคารของนางจุรี จำนวน 27 ล้านบาท รวมทั้งทรัพย์สินอื่น อาทิ รถยนต์ กระเป๋าแบรนด์เนม ไว้ตรวจสอบแล้ว รวมมูลค่าเฉพาะราคาบ้านทั้งหมดที่ตรวจยึดมีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมราคาที่ดินของแต่ละแปลง

ทั้งนี้จากการตรวจค้นบ้านพักหลังนี้ ตามที่ว่าพบภาพถ่ายที่ถ่ายคู่กับบุคคลสำคัญของไทย จีน และกัมพูชา เบื้องต้น ยังไม่พบ พบเพียงภาพถ่ายของคนในครอบครัวเท่านั้น

ขณะที่พบว่านางจุรี ได้ถือบัตรประชาชนคนไทยด้วย ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบว่าที่มาของการถือบัตรประชาชนนั้นถูกต้องหรือไม่ ส่วนสถานที่อื่น ๆ ก็อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใคร ขอเวลาในการตรวจสอบก่อน แต่ยืนยันว่า ทั้ง 19 จุด ที่มีการตรวจค้นในวันนี้มีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาตามหมายจับ

...

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการในครั้งนี้ ไม่ได้มีเป้าหมายว่า หรือมีธงว่าจะต้องออกหมายจับบุคคลดังกล่าวที่มีความใกล้ชิดกับผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นปฏิบัติการที่เราทำมาอย่างต่อเนื่องนานแล้ว เราต้องการดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนสนับสนุนส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่มาก่อเหตุอาชญากรรมในประเทศไทย และเป็นอาชญากรรมอันดับหนึ่ง ที่สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยจำนวนมาก