สืบพยานโจทก์ คดี "ทักษิณ" ถูกกล่าวหาผิด ม.112 วันสุดท้าย "ทนาย" ยันอดีตนายกฯ เป็นเหยื่อคดีทางการเมือง อยากทักทายนักข่าว แต่เป็นรถกันกระสุน เปิดกระจกไม่ได้

ที่ห้องพิจารณา 902 ศาลอาญา เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ก.ค. 68 ศาลนัดสืบพยานโจทก์คดี หมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีเมื่อปี 2558 นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีต่างประเทศประเทศเกาหลีใต้พาดพิง ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว

โดยนายวิญญัติ กล่าวว่า ในวันนี้ตามกำหนดการจะเป็นการสืบพยานโจทก์ครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ถ้าหากยังไม่สามารถสืบพยานโจทก์ทั้งหมดในวันนี้ได้ ทางโจทก์อาจจะขอวันนัดสืบพยานเพิ่มโดยอาจจะใช้วันนัดสืบพยานของจำเลย แต่ตนเชื่อว่าวันนี้น่าจะสืบพยานโจทก์ได้เสร็จสิ้น โดยนายทักษิณจะเข้าฟังการสืบพยานเช่นเดิม คดีนี้ยังเหลือกระบวนการที่ทางจำเลยจะต้องนำพยานเข้าสืบพยานอีก และมีพยานอยู่หลายปาก

...

ส่วนมีความหนักใจในข้อกล่าวหาไหม เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ชวนสังเกตว่าข้อกล่าวหานี้กลายเป็นข้อกล่าวหาทางการเมืองไปแล้ว แต่ตนยืนยันว่านายทักษิณเป็นเหยื่อทางการเมืองคนหนึ่งและไม่ได้รับความเป็นธรรมตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐาน การสอบสวนต่าง ๆ ดังนั้นมุมมองของตนในฐานะผู้ทำคดีเมื่อเราได้เห็นหลักฐาน และได้พิสูจน์บางอย่าง จึงไม่หนักใจในคดีนี้ แต่ในอนาคตหลังจากนี้ผลจะออกมาอย่างไรก็เป็นดุลยพินิจของศาล

ทั้งนี้ ภายหลังจากการสืบพยานโจทก์ในช่วงเช้าเสร็จสิ้น นายทักษิณ ได้ขึ้นรถโรลส์-รอยซ์ ซึ่งเป็นรถส่วนตัว ที่มารอรับบริเวณด้านข้างของศาล ก่อนรถจะขับออกไปทันที โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งมาโบกมือให้กำลังใจ แต่เพราะหลายคนไม่รู้ว่านายทักษิณ เปลี่ยนรถมาศาลในวันนี้ ทำให้ไม่รู้ว่าเป็นคันไหน

อย่างไรก็ตาม นายวิญญัติ ทนายความบอกว่าช่วงเช้าสืบพยานไปแล้ว 2 ปาก เหลือช่วงบ่ายอีก 1 ปาก ซึ่งนายทักษิณ รับรู้การมารอของนักข่าวและมวลชน มีความเป็นห่วง อยากจะทักทายแต่เปิดกระจกไม่ได้เพราะเป็นรถที่ใช้กันกระสุน