พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 เผยตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ หลังตูน ปชน.3 อ้างเป็นแค่คนขับ ส่วนเดียร์ลายเป็นคนยิงตำรวจชุดล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า อ้างไม่รู้ว่าเป็นตำรวจ หวาดระแวงเรื่องราวในอดีตหลายเรื่องที่มีศัตรูรอบตัว กลัวคู่อริ เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มทั้งปืนเถื่อนและคดีบุหรี่ไฟฟ้า

จากกรณีที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ได้ทำการล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากคนร้ายที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อบริเวณย่านแฟลตรังสิตซิตี้ (แฟลตปลาทอง) อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยสองคนร้ายไหวตัวทันใช้อาวุธปืนยิงใส่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนขับรถหลบหนีไป เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 มิถุนายน 2568 พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 ได้รับการติดต่อจากนายสรศักดิ์ จันทร์ใบเล็ก หรือเดียร์ลาย อายุ 35 ปี ชาว จ.นนทบุรี และนายนภณธรณ์ ฟักเฟื่องบุญ หรือตูน ปชน.3 อายุ 36 ปี ชาว จ.นนทบุรี สองผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ในความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้ช่วยเหลือในการที่เจ้าพนักงานนั้นกระทำการตามหน้าที่, ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยมีหรือใช้อาวุธปืน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน” ที่ร่วมกันก่อเหตุอุกอาจในคดีนี้ ต้องการเข้ามอบตัวเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย หลังถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก

ต่อมาในเวลา 14.30 น.ของวันเดียวกัน นายสรศักดิ์และนายนภณธรณ์ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พ.ต.อ.นัฎฐพงษ์ ศรีเพ็ญประภา ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.หฤษฎ์ คำจุมพล ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง รอง ผกก.สส.สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อเข้ามอบตัวที่บริเวณทางเข้าสวนสมเด็จฯ นนทบุรี ใต้ทางด่วนศรีสมาน ถนนศรีสมาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

...

เบื้องต้นนายสรศักดิ์ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือยิงตำรวจชุดที่ทำการล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีนายนภณธรณ์เป็นคนขับรถพาหลบหนีการจับกุม ก่อนตำรวจได้ควบคุมตัวทั้งสองไป สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียดและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาทางด้าน พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ สภ.ปากคลองรังสิต ได้สืบสวนหาข่าวจนได้ข้อมูลติดต่อซื้อขายกับพรรคพวกของนายตูน ก่อนที่นายตูนและเดียร์ลายจะทำหน้าที่มาส่งมอบบุหรี่ไฟฟ้า โดยนายตูนอ้างว่าเป็นคนขับรถ แต่ระหว่างส่งของ ตำรวจได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดการฉุดกระชากกันตั้งแต่ในรถ ซึ่งนายเดียร์ลายมีอาวุธปืนเตรียมไว้ที่เก๊ะหน้ารถอยู่แล้วในลักษณะพร้อมยิง นายเดียร์ลายจึงได้ยิงเปิดใส่เจ้าหน้าที่ก่อน ก่อนที่จะเกิดการต่อสู้กัน โดยนายเดียร์ลายถูกกระสุนยิงสวนเข้าที่หลัง ซึ่งจากการตรวจรถยนต์ของกลางก็พบรอยกระสุน 20 กว่านัด ส่วนใหญ่ยิงออกมาจากด้านในรถ

หลังก่อเหตุผู้ต้องหาพยายามขับรถหลบหนีขึ้นทางด่วน แต่เพราะยางรถถูกเจ้าหน้าที่ยิงแบน ทำให้รถไปต่อไม่ได้ ผู้ต้องหาจึงขับรถลงจากทางด่วนและนำไปจอดทิ้งไว้ที่อู่ซ่อมรถย่านสรงประภา ดอนเมือง ก่อนจะขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไป โดยได้ตระเวนไปตามบ้านญาติพี่น้อง พรรคพวก และทำแผลที่ถูกยิงเอง จนกระทั่งมาทราบภายหลังว่าคนที่ถูกตนเองยิงเป็นตำรวจ จึงคิดว่าไปไม่รอดแน่ เพราะถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก จึงได้ติดต่อคนใกล้ชิดให้ช่วยประสานพามอบตัว

ส่วนที่ตำรวจแสดงตัวแล้ว แต่ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นตำรวจนั้น เจ้าตัวอ้างว่าส่วนหนึ่งมาจากความหวาดระแวงเรื่องราวในอดีตหลายเรื่องที่มีศัตรูรอบตัว กลัวคู่อริอาจจะหลอกล่อให้มาส่งบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อมาทำร้าย แต่ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ และอยู่ระหว่างรอสอบปากคำตำรวจที่ถูกยิง ว่าสรุปแล้วนายเดียร์ลายเป็นคนยิง และนายตูนเป็นคนขับตามคำกล่าวอ้างจริงหรือไม่ รวมถึงตำรวจจะขยายผลไปยังเรื่องผิดกฎหมายอื่นๆ ด้วย เพราะผู้ต้องหาก็เคยมีประวัติก่อคดีอาชญากรรมใหญ่ๆ หลายคดี ทั้งคดียาเสพติด และคดีอาวุธปืน

...

ส่วนอาวุธปืน เบื้องต้นก็ไม่ใช่อาวุธปืนที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีการยิงในระยะที่หวังผลได้ เข้าข่ายความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงานและพยายามฆ่าผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติตามหน้าที่ ส่วนข้อหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน และคดีบุหรี่ไฟฟ้า จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมภายหลัง ส่วนเจ้าหน้าที่ 2 คนที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ปลอดภัยทั้งคู่ โดยยังพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล