สลด แม่อุ้มลูก 5 เดือนเดินข้ามทางม้าลายถูกแท็กซี่พุ่งชนเสียชีวิตก่อนขับหนี พลเมืองดีขับรถตามไปสกัดจับได้ ส่งตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 28 มิถุนายน 2568 พ.ต.ต.รัชตะ รัตนจงจิตกร สารวัตรสอบสวน สภ.คูคต ได้รับแจ้งมีรถแท็กซี่ชนคนเดินเท้า มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณซอยลำลูกกา 69 ถนนลำลูกกาคลอง 4 หลักกิโลเมตรที่ 9+900 เส้นทางมุ่งหน้านครนายก ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จากนั้นได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่มไทร

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่อาสาสมัครให้ความช่วยเหลือ หญิง 1 รายทำ CPR เนื่องจากผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อ นาง NINGNONG PHETLAVANH อายุ 34 ปี สัญชาติ สปป.ลาว นอกจากนี้ยังพบเด็กอายุ 5 เดือน ไม่ทราบเพศ ร้องด้วยความเจ็บปวด

เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่มไทรนำส่งโรงพยาบาลธัญบุรีเช็คอาการอย่างเร่งด่วน ห่างกันประมาณ 500 เมตรตรวจสอบพบรถแท็กซี่สีเหลือง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร สภาพรถบังโคลนซ้ายพังยับเยิน กระจกรถมีรอยบุบ ทราบชื่อคนขับนายอัมรินทร์ โชเฟอร์คนขับรถแท็กซี่ ยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังขับรถหนีไปไกลจากจุดเกิดเหตุเกือบถึงคลอง 5 โดยมีพลเมืองดีสามารถสกัดจับและควบคุมเอาไว้ได้

...

จากการสอบถามนายวิวัฒน์ อายุ 54 ปี เจ้านายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นลูกน้องของตนเอง ซึ่งเป็นพนักงานอาหารตามสั่ง หลังเลิกงานผู้ตายกำลังจะเดินข้ามทางม้าลายเพื่อจะกลับที่พัก ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ทราบว่ารถชนกันเสียงดังมาก รู้ว่ารถแท็กซี่ชนก็เลยเดินออกมาดูถึงรู้ว่าคนถูกชนนั้นเป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งในขณะที่เขาเดินอุ้มลูก 5 เดือนเดินข้ามทางม้าลายเป็นแบบนี้ประจำทุกวันอยู่แล้ว ทำงานหลายเดือนแล้ว เป็นคนสัญชาติลาวซึ่งมาทำงานถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนลูกปลอดภัยอาสาสมัครได้ส่งโรงพยาบาลแล้ว

ในขณะที่ชาวบ้านส่วนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า คนขับรถแท็กซี่หลังจากที่ชนแล้วได้ขับหนีไปห่างจากจุดเกิดเหตุเกือบถึงคลอง 5 ตรงข้ามคลังปั๊มน้ำมัน และมีพลเมืองดีที่ขับรถตามไปสกัดจับและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาควบคุมตัว

เบื้องต้น พ.ต.ต.รัชตะ รัตนจงจิตกร สารวัตรสอบสวน สภ.คูคต ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ได้คุมตัวคนขับรถแท็กซี่ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.คูคตและตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำศพส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เพื่อตรวจสอบการเสียชีวิตอีกครั้งและจะได้ติดตามญาติเพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป