ปัตตานี ตำรวจอีโอดีเข้าดำเนินการตรวจสอบและทำลายวัตถุต้องสงสัย 4 จุด ในพื้นที่ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี พบเป็นเพียงท่อพลาสติกพันเทปที่ต่อสายไฟไว้เท่านั้น ไม่พบการบรรจุดินระเบิด หรือชิ้นส่วนระเบิดแต่อย่างใด เชื่อว่าเป็นการก่อกวนสร้างสถานการณ์ หรือ "วางระเบิดทิพย์"
จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 21.50 น. วันที่ 25 มิถุนายน 2568 ร.ต.อ.วีระยุทธ อินทรัตน์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.กะพ้อ จังหวัดปัตตานี ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดถูกวางไว้ในพื้นที่หลายจุด จึงได้รีบประสานกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด (EOD) พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่เข้าตรวจสอบทันที
จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบวัตถุต้องสงสัยทั้งหมด จำนวน 4 จุด 8 ลูก กระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ประกอบด้วย จุดที่ 1 บริเวณริมถนนบ้านอุแตบือราแง หมู่ที่ 2 ตำบลตะโละดือรามัน จำนวน 2 ลูก จุดที่ 2 พื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลกะรุบี จำนวน 2 ลูก จุดที่ 3 บริเวณแผงกั้นถนนหน้าโรงเรียนบ้านมือลอ หมู่ที่ 4 ตำบลปล่องหอย จำนวน 2 ลูก จุดที่ 4 บริเวณสะพานบ้านมือลอ หมู่ที่ 7 ตำบลปล่องหอย จำนวน 2 ลูก
โดยวัตถุต้องสงสัยทั้งหมดมีลักษณะคล้ายกัน คือเป็นท่อสีดำพันด้วยเทปดำ มีสายไฟโผล่ออกมาอย่างเห็นได้ชัด สร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
...
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบและทำลายวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ โดยใช้วิธียิงตัดวงจร พบว่าไม่มีการระเบิดเกิดขึ้นในทุกจุด เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าเป็นเพียงท่อพลาสติกพันเทปที่ต่อสายไฟไว้เท่านั้น ไม่พบการบรรจุดินระเบิดหรือชิ้นส่วนระเบิดแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นการก่อกวนหรือ "วางระเบิดทิพย์" เพื่อหวังสร้างความโกลาหลและสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่เคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน รวมถึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในทุกเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้ในการลอบวางวัตถุดังกล่าว
ทั้งนี้ จะมีการเปรียบเทียบเหตุการณ์กับคดีลักษณะคล้ายกันในพื้นที่อื่น โดยเฉพาะเหตุวางวัตถุต้องสงสัยภายในสนามบินภูเก็ตที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงย้ำว่า จะเร่งติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุที่อยู่เบื้องหลังการปั่นป่วนในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขอความร่วมมือประชาชน หากพบวัตถุต้องสงสัย หรือบุคคลแปลกหน้าเคลื่อนไหวในพื้นที่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อป้องกันเหตุร้ายและรักษาความสงบในชุมชน