วุ่นแล้ว หนุ่มปัตตานี เปิดปากสารภาพ ร่วมกับเพื่อนรวม 4 คน ลอบวางระเบิด 4 ลูก ทำ จยย.บอมบ์ ในสนามบินภูเก็ต จากนั้นไปวางระเบิดที่แหลมพรหมเทพ จำนวน 1 ลูก และวางที่ป่าตอง จำนวน 2 ลูก

จากกรณีเมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 25 มิถุนายน 2568 ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานภูเก็ต ได้รับแจ้งพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน 1 คัน จอดทิ้งไว้บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ ฝั่งอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) โดยก่อนหน้านี้มีรถจักรยานยนต์เข้ามาจอดจำนวน 2 คัน แต่มีการขับออกไปเพียง 1 คัน อีกคันถูกทิ้งไว้โดยไม่มีผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของ

นายมนต์ชัย ตะโหนด ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ทภก. (EOD) รุดเข้าตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวอย่างละเอียด จากการตรวจสอบพบว่า มีวัตถุต้องสงสัยคล้ายวัตถุระเบิดซุกซ่อนอยู่ภายในรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการปิดกั้นพื้นที่โดยรอบห่างจากจุดเกิดเหตุในรัศมี 200 เมตร ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และได้ดำเนินการตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยด้วยการทำลายก่อนเก็บกู้ พร้อมทั้งได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุสนามบิน (Airport Contingency Plan : ACP) บทที่ 4 ว่าด้วยการตรวจพบสิ่งของต้องสงสัยหรือวัตถุต้องห้าม เพื่อควบคุมสถานการณ์อย่างเป็นระบบ

...

จากนั้น เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ทภก. (EOD) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และทีมสุนัขตำรวจ K-9 เข้าตรวจสอบ โดยเบื้องต้นพบวัตถุต้องสงสัยจึงได้ทำการยิงทำลายเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและประชาชนในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม หน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้าดำเนินการตรวจสอบรถคันดังกล่าวอย่างละเอียดต่อไป เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินการตามขั้นตอนทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป โดย ทภก. ได้ประกาศยกเลิกใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan : ACP บทที่ 4 การตรวจพบสิ่งของต้องสงสัยหรือวัตถุต้องห้าม กรณีตรวจพบในพื้นที่ของสนามบิน เมื่อเวลา 19.08 น. ทภก.


ยืนยันความปลอดภัย-ไม่กระทบการให้บริการ

ทั้งนี้ ทภก.ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินและการดำเนินงานของสนามบิน และขอความร่วมมือประชาชนงดเข้าใกล้บริเวณที่เกิดเหตุจนกว่าจะมีประกาศยกเลิกการปิดพื้นที่ อย่างไรก็ดี ทภก.ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยการตรวจตรายานพาหนะและบุคคลเข้า–ออกพื้นที่อย่างเข้มงวดมากขึ้น และเพิ่มวงรอบชุดตรวจผสมในการเฝ้าระวัง ตรวจสอบความเรียบร้อยในเขตพื้นที่ท่าอากาศยาน เพื่อสร้างความมั่นใจ และความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ จ.ภูเก็ต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากการจับกุมนายมูหามะ วาเด็ง อายุ 29 ปี ชาว จ.ปัตตานี และ นายสุไลมาน กาซา อายุ 27 ปี ชาว จ.ปัตตานี 2 ผู้ต้องหาพร้อมวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ขณะกำลังขับรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีดำ ทะเบียน กฉ-9486 สุรินทร์ กลับออกจาก จ.ภูเก็ต และไปถูกจับได้ที่ด่านตรวจ สภ.เมืองพังงา เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา

(เปิดไทม์ไลน์ 2 ผู้ต้องหาลอบขนระเบิดซุกในรถยนต์ ก่อนถูกจับคาด่านตรวจที่ จ.พังงา)

เมื่อ 13.30 น. (วันนี้ 25 มิ.ย.68) ชป.สืบสวนคดีพิเศษ กก.สส.ภ.จว.ปัตตานี ได้รับตัวผู้ต้องหาดังกล่าว จาก สภ.เมืองพังงา ณ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่ง ศูนย์ซักถาม ศพส.ศปก.ตร.สน. จ.ยะลา

ระหว่างเดินทางสอบถาม (แยกคุมคันละ 1 คน) นายมูหามะ วาเด็ง ให้การรับสารภาพว่านำระเบิดไปวาง 4 ลูกจริง และให้การเพิ่มว่ารถ จยย. สีขาว ทะเบียน 3422 ที่ร่วมเดินทางไปก่อเหตุ เป็นรถ จยย.บอมบ์ และมีแผนนำเข้าไปวางสนามบินภูเก็ต

...

(สอดคล้องจากการตรวจสอบของชุดสืบสวนที่ไล่กล้องวงจรปิด)

เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 21 มิ.ย.68 ตนให้เพื่อนขับรถ จยย.เวฟ สีขาว ไปส่งที่บ้านเพื่อนในพื้นที่ยะรัง ปัตตานี จากนั้น ปะจูไปรับที่บ้านเพื่อน ในพื้นที่ ยะรัง เพื่อนไปส่งในพื้นที่ หาดสะกอม โดยใช้รถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ เมื่อไปถึงมีรถเก๋งคันที่ถูกจับจอดอยู่แล้ว และรถ จยย. 3 คัน

จากนั้น ขับรถ จยย. 1 คัน เป็นเวฟ สีขาว ปะจู ขับจยย.เวฟ สีน้ำเงิน เปาะซู จยย.เวฟ สีขาว และนายสุไลมานฯ ขับรถเก๋ง โดยบรรทุกระเบิดและน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ในกระโปรงรถ การเดินทาง จะมี ปะจู กับ เปาะซู ขับรถ นำ นายสุไลมานฯ ขับรถเก๋งตามหลัง และตนขี่จยย.ปิดท้ายขบวน

...

ระหว่างทางจะมีกันสลับกันขี่ จยย. และสลับเสื้อแจ็คเก็ตกัน และแวะพักที่กระบี่ จำนวน 1 คืน จากนั้นออกเดินทางต่อ เวลาประมาณ 08.00 น. เมื่อเดินทางไปก่อนถึงภูเก็ต ได้มีการนำกระเป๋าส่งอาหาร (แบบไรเดอร์) มาติดตั้ง จนกระทั่งเวลาประมาณหลังเที่ยง ถึงมัสยิดบ้านท่าฉัตรไชย ก็ได้จอดรวมตัวกันกินข้าว ละหมาด ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นเดินทางต่อไปที่มัสยิดนูรุลญัณณะห์ บ้านบางโรง เพื่อทำการละหมาดตอนเที่ยง หลังละหมาดเสร็จ ปะจู ได้นำระเบิด 1 ลูก ใส่ไว้ใต้เบาะรถเวฟ สีขาว จยย. สีขาว ทะเบียน 3422 เพื่อทำเป็น จยย.บอมบ์ จากนั้น ปะจูได้ขี่ไปวาง โดยมีเปาะซู ขี่ จยย.ไปรับ

หลังจากวางเสร็จ ทั้ง 2 คน ขับกลับมาที่มัสยิดนูรุลญัณณะห์ จากนั้นได้ออกไปวางระเบิดที่แหลมพรหมเทพ จำนวน 1 ลูก โดย ตนขับ จยย.เวฟ สีขาว ปะจู รถเวฟสีน้ำเงิน และเปาะซูโดยสารไปกับนายสุไลมานฯ นั่งรถเก๋งไป

เมื่อถึงจุดวางตนได้นำระเบิดในกระโปรงรถ แล้วนำมาให้เปาะซู ไปวาง จากนั้น เดินทางไปวางที่ป่าตอง จำนวน 2 ลูก โดยตนได้สลับมาโดยสารไปกับนายสุไลมาน เปาะซู และ ปะจู ขี่รถ จยย. ไป ตนจำไม่ได้ว่าใครขับรถสีอะไร เมื่อถึงที่หาดป่าตอง ตนได้ลงจากรถ เอาระเบิดไปให้ เปาะซู ไปวาง จากนั้น ได้แยกกันเดินทางกลับ จนกระทั่งถูกจับกุม

ขณะที่นายสุไลมาน ให้การว่า ได้ออกเดินทางจากจุดรับรถ 08.00 น. (พิกัดเทพา) ไปยังจังหวัดภูเก็ต เมื่อถึงกระบี่ได้แวะนอน บริเวณชายหาด (จำสถานที่ไม่ได้) จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังมัสยิดที่สะพานสารสิน เพื่อละหมาดก่อน จากนั้น ได้เดินทางทำภารกิจวางระเบิดตามจุดต่างๆ ส่วนรถจักรยานยนต์บอมบ์ ไปตั้งอยู่ที่ในสนามบินภูเก็ต

จึงได้แจ้งเตือนทางภูเก็ตเรื่อง จยย.บอมบ์ ไปจอดที่สนามบินภูเก็ต พบรถ จยย.ดังกล่าวจอดอยู่ที่สนามบินจริง เจ้าหน้าที่อีโอดีจะได้เก็บกู้ต่อไป

...

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า รถจยย.ที่โดนสะเก็ดระเบิด ชุด EOD เข้ายิงทำลายระเบิด ซึ่งได้รับความเสียหายในเบื้องต้น 7 คัน ในส่วนค่าเสียหายต่างๆ ทาง พ.ต.อ.สลาน สันติศาสนกุล ผกก.สภ.สาคู เปิดเผยเบื้องต้นว่า ทางการท่าฯ มีประกันอยู่ โดยให้เจ้าของรถไปแสดงตัวตน