ตำรวจจับชายวัย 66 ปี ลวงเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ทำร้ายจนเลือดอาบ ก่อนเอาไปทิ้งป่าข้างทาง อ้างแค้นพ่อเด็กไม่คืนเงิน 300 บาท ตอนแรกพยายามข่มขืนแต่เด็กไม่ยอม เลยกระทืบท้องจนบาดเจ็บ
จากกรณีพลเมืองดีพบเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ถูกหนุ่มใหญ่ทำร้ายเลือดอาบหน้าอาการสาหัส จึงได้ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานก่อนผู้ก่อเหตุจะขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างพร้อมกับเด็กหญิงหลบหนี เหตุเกิดที่บ้านสร้างโพน อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี
เช้าวันนี้ (25 มิ.ย. 68) พ.ต.อ.ลัทธวัฒน์ เพ็งชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกุดข้าวปุ้น และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำตัว นายสมศักดิ์ อายุ 66 ปี ผู้ก่อเหตุออกมาสอบสวน และให้ชี้ของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งประกอบด้วยกรรไกร ถุงยางอนามัยที่ถูกแกะใช้แล้ว 1 ชิ้น และยังไม่ได้ใช้ 2 ชิ้น กาแฟชนิดเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศจำนวนมาก กระสอบปุ๋ยเปื้อนเลือด รองเท้าแตะเปื้อนเลือดของนายสมศักดิ์

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสมศักดิ์ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุพาเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) วัย 9 ขวบออกมาจากโรงเรียนมาจริง โดยนายสมศักดิ์อ้างว่าตนเองมีเจตนาที่จะแก้แค้นพ่อของเด็กที่ทะเลาะกันก่อนเกิดเหตุ 1 วัน เนื่องจากพ่อของเด็กเอาเงินไป 300 บาท แล้วไม่ยอมคืนจึงเกิดความโกรธแค้น เมื่อวานพบเด็กหญิงเอ ซ้อมวอลเลย์บอลอยู่ที่โรงเรียน จึงได้ออกอุบายให้ไปเอาสายชาร์จโทรศัพท์ แต่กลับพาไปป่าข้างทางเพื่อที่จะข่มขืน เด็กหญิงเอไม่ยินยอมจึงได้ชกหน้าและใช้เท้ากระทืบท้องเด็กหญิงเอจนได้รับบาดเจ็บก่อนพลเมืองดีมาเห็นจึงได้ขับรถหลบหนี และถูกตำรวจจับดังกล่าว
...

ด้าน พ.ต.อ.ลัทธวัฒน์ เปิดเผยว่าเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าเด็กถูกทำร้ายร่างกาย คนร้ายมุ่งหน้าไปตามถนนขุมคำ-กุดข้าวปุ้น บริเวณบ้านโคกเลาะ ต.กุดข้าวปุ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุดข้าวปุ้น สามารถติดตามสกัดจับไว้ได้ทราบชื่อคือ นายสมศักดิ์ แต่ไม่พบเด็กหญิงเอ จึงได้ทำการสอบถามนายสมศักดิ์ แต่ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ยอมบอกว่านำเด็กไปไว้ที่ใด จึงได้มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้านที่ทราบข่าวออกค้นหาจนถึงเวลาประมาณ 22.00 น. ที่ป่าชุมชนข้างทาง ริมถนนตระการ-เขมราฐ จึงพบตัวเด็กหญิงเอ นอนจมกองเลือด ตรวจสอบยังมีสัญญาณชีพจรจึงได้ประสานรถกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ล่าสุดน้องมีอาการฟื้นตัวแล้วแต่ยังต้องให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด

สำหรับนายสมศักดิ์เอง มีความสนิทกับครอบครัวของผู้เสียหายไปมาหาสู่กันเป็นประจำ จึงทำให้เด็กเกิดความไว้ใจ เมื่อถูกเรียกให้ไปจึงไม่ได้เกิดความระแวงแต่อย่างใด จึงขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับโรงเรียนและผู้ปกครองในการดูแลเด็ก จากการตรวจสอบประวัตินายสมศักดิ์ เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก และทำร้ายร่างกายในปี 2563 เบื้องต้นไม่พบสารเสพติดในร่างกาย แต่มีอาการเมาสุราในขณะที่ถูกจับกุม.