ตำรวจไซเบอร์แถลงปฏิบัติการ "Money Cash Back" รวบขบวนการหลอกลงทุนเทรดหุ้นทิพย์ สูญเงินกว่า 14 ล้าน อายัดเงินคืนผู้เสียหาย 2 ล้านบาท
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 มิ.ย. 68 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ท.ศรายุทธ จุณวัตต์ ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ขจร อบทอง รอง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ชัยรัตน์ วรุณโณ รอง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.สุวัฒชัย ศรีทองสุข รอง ผบก.ตอท. ร่วมกันแถลงปฏิบัติการ "Money Cash Back" รวบขบวนการหลอกลงทุนเทรดหุ้นทิพย์ อายัดเงินคืนผู้เสียหาย 2 ล้านบาท
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้ บช.สอท. ปราบปรามปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเน้นมาตรการเชิงรุกในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่มีความเกี่ยวข้องในลักษณะของการเปิดบัญชีม้าให้กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อใช้ในการก่อเหตุหลอกลวงประชาชน
พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นหญิง อายุ 61 ปี อดีตพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง พบโพสต์โฆษณาในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการลงทุนเทรดหุ้น ผู้เสียหายจึงเกิดความสนใจเนื่องจากตัวผู้เสียหายเคยเทรดหุ้นอยู่แล้ว ต่อมาผู้เสียหายจึงกดเข้าดู จากนั้นหน้าจอก็ปรากฏปุ่มให้เลือกเข้าร่วมกลุ่ม ผู้เสียหายจึงกดเข้าร่วมกลุ่มแล้วโดนเพิ่มเพื่อนในไลน์อัตโนมัติ
จากนั้นได้มีคนร้ายแจ้งว่าจะช่วยทำหน้าที่เป็นเลขาของผู้เสียหายเพื่อคอยดูแล และเชิญเข้ากลุ่มเพื่อแบ่งปันแนวทางการลงทุน และเรียนรู้เทคนิคการวิเคราะห์หุ้น โดยอีกฝ่ายแนะนำว่าเป็นที่ปรึกษาที่ได้รับอนุญาตจาก กลต. และเชิญให้เข้าร่วมกลุ่มไลน์ OpenChat ซึ่งในกลุ่มมีสมาชิกประมาณ 85-87 คน และมักพูดคุยเรื่องหุ้นกัน
...
โดยคนร้ายได้พูดคุยกับผู้เสียหายและแนะนำให้เปิดบัญชี จากนั้นระบบก็ขึ้นหน้าต่างแพลตฟอร์ม AIRA สำหรับเทรดหุ้น เมื่อผู้เสียหายเริ่มลงทุน แพลตฟอร์มดังกล่าวก็จะโชว์ตัวเลขแสดงผลกำไร ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าได้กำไรจริง จึงโอนเงินลงทุนเพิ่ม ตัวเลขผลกำไรในแพลตฟอร์มก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งโดยคนร้ายพูดหว่านล้อมไม่ให้ผู้เสียหายถอนเงินออก โดยอ้างว่าส่งผลกระทบต่อการลงทุน ผู้เสียหายจึงค่อยทยอยนำเงินเก็บของตนเองมาลงทุนเพิ่มอีกจำนวนหลายครั้ง ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอก โดยโอนเงินไปยังบัญชีคนร้าย จำนวน 10 บัญชี ทั้งหมดจำนวน 16 ครั้ง รวมเป็นเงิน 14,392,290.38 บาท
ต่อมา พ.ต.อ.สุวัฒชัย ศรีทองสุข รอง ผบก.ตอท. ได้ทำการสืบสวนกรณีจนทราบว่านายเพือย อายุ 51 ปี ชาวบุรีรัมย์ กับพวกเป็นกลุ่มขบวนการแก๊งหลอกลวงทำหน้าที่เปิดบัญชีม้ารองรับการโอนเงินจากเหยื่อที่หลงเชื่อ จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับและทำการอายัดเงินได้ทันจำนวน 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดเงินที่ยังค้างในบัญชีธนาคารของนายเพือย โดยเงินที่อายัดได้นั้นทางตำรวจไซเบอร์ได้ดำเนินการนำมอบคืนเป็นเช็คเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท ให้กับผู้เสียหาย.