ผบช.ไซเบอร์ ยันพบเส้นทางการเงินเว็บพนันออนไลน์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงคนไทย ไปบริษัทแลกเงินสกุลดิจิทัลในกัมพูชา
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 16 มิ.ย. 68 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เผยถึงกรณีตำรวจไซเบอร์ พบบริษัท “Huione Group” มีความเคลื่อนไหวในการรับโอนเงินจากเว็บพนันออนไลน์และเครือข่ายแก๊งคอลฯ ที่เข้ามาหลอกลวงคนไทย มีเส้นทางการเงินส่งต่อเป็นทอด ๆ ไปยังบริษัทดังกล่าว โดยมีรูปแบบการหลอกลวงคือการแปลงทรัพย์สินที่ได้จากเงินในบัญชีของผู้เสียหายไปยังบัญชีม้าแถวต่าง ๆ ก่อนที่จะแปลงเงินเหล่านี้เป็นเงินสกุลดิจิทัล และเมื่อแปลงเป็นเงินสกุลดิจิทัลแล้ว กลุ่มคนร้ายได้นำเงินสกุลดิจิทัลเหล่านี้ไปแปลงเป็นเงินสดและทรัพย์สินที่บริษัทดังกล่าว
โดยพบว่ามีความเป็นไปได้ 2 อย่างคือบริษัท “Huione Group” ตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชาและตั้งอยู่ในพื้นที่ของแก๊งสแกมเมอร์ตามแนวบริเวณชายแดนและพื้นที่ของกลุ่มคนร้าย จึงอาจใช้บริษัทนี้แลกเงินสกุลดิจิทัลออกมาเป็นเงินสดหรือเงินเข้าสู่บัญชีอื่น ๆ ยอมรับว่าที่ผ่านมาคดีของเว็บพนันออนไลน์และแก๊งคอลฯ ต่าง ๆ มีเส้นทางการเงินไปถึงบริษัทแห่งนี้เป็นส่วนใหญ่ หากถามว่าผิดปกติหรือไม่ เรื่องนี้ไม่สามารถฟันธงได้ เนื่องจากเป็นบริษัทที่เปิดโดยถูกต้องตามกฎหมาย
ส่วนกรณีที่สหรัฐอเมริกาขึ้นแบล็กลิสต์บริษัทดังกล่าวนั้น จะมีผลต่อการสืบสวนสอบสวนหรือการเฝ้าจับตาของตำรวจไซเบอร์หรือไม่ ผบช.ไซเบอร์ กล่าวว่า ในทางสืบสวนไม่เป็นปัญหา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เส้นทางการเงินของกลุ่มคนร้ายไปยังบริษัทดังกล่าวได้มีการประสานขอความร่วมมือข้อมูลทรัพย์สินและยอดเงินบ้างหรือไม่ ผบช.ไซเบอร์กล่าวต่อว่า ได้มีการประสานขอข้อมูลไปยังหลายบริษัทซึ่งส่วนใหญ่ในประเทศจะให้ความร่วมมือ 100% 50% หรือ 10% ไม่เหมือนกัน แต่บริษัทนี้ให้ความร่วมมือส่งข้อมูลกลับมาให้เป็นบางกรณี ซึ่งบางคดีก็ไม่ได้ส่งข้อมูลกลับมาให้ ส่วนที่มองว่าจะมีความผิดปกติหรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ ส่วนบริษัทดังกล่าวจะเป็นของนายฮุน โต หลานชายของ ฮุน เซ็น ประธานวุฒิสภากัมพูชา และเป็นผู้มีอำนาจในประเทศขณะนี้หรือไม่ เรื่องนี้ตนเองไม่สามารถตอบได้ เพราะยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลของบริษัทดังกล่าว
...
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยังได้กล่าวเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่าในช่วงสถานการณ์ความมั่นคงระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ขอให้ระมัดระวังการติดตามข้อมูลข่าวสารและแชร์ข่าว เนื่องจากขณะนี้ได้มีผู้ไม่หวังดีสร้างข่าว Fake News อย่างแนบเนียนมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้โปรแกรม AI มาตัดต่อภาพ ดังนั้นหากข่าวไหนไม่ชัวร์ โปรดอย่าแชร์ และติดตามข้อมูลข่าวสารจากสำนักข่าวที่เชื่อถือได้
จึงฝากเตือนไปยังกลุ่มคนผู้ไม่หวังดีที่ต้องการจะสร้าง Fake News ว่า การแสดงออกความคิดเห็นในโลกออนไลน์เป็นเสรีภาพที่สามารถทำได้ แต่ขอให้แยกแยะว่า การสร้าง Fake News เพื่อปลุกปั่นกระแส ไม่ใช่เสรีภาพ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายคอมพิวเตอร์ หากทางตำรวจไซเบอร์พบเจอ ก็จะดำเนินการสืบสวนขยายผลจับกุมทันที