หนุ่มหลอนยาบ้า ขอเงินน้าสาวไม่ได้ ลงมือทำร้ายเจอสู้กลับเลยจับรัดคอจนเสียชีวิตคาบ้านที่นครปฐม ขณะที่พี่สาวคนตายเปิดข้อความสุดท้าย ส่งมาบอก จะถูกหลานฆ่า
วันที่ 4 มิ.ย. 68 ร.ต.ท.วีรลักษณ์ ควรชม พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุของ สภ.โพธิ์แก้ว ว่า พบผู้เสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง ม.4 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม ขอให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ จึงรายงาน พ.ต.อ.จุลภณ มีชำนาญ ผกก.สภ.โพธ์แก้ว พร้อมประสาน ชุดสืบสวน มูลนิธิกู้ภัยพรานพิทักษ์ แพทย์เวร ร.พ.สามพราน และกองพิสูจน์หลักฐาน 7 นครปฐม ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ นายอนุพงษ์ แก่นทรัพย์ อายุ 28 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี หลานเจ้าของบ้าน นอนอยู่ที่โซฟาชั้นล่างภายในบ้าน ตรวจสอบพบรอยเลือดหยดติดอยู่กับพื้นหลายแห่ง และพบร่องรอยของอุจจาระ ถ่ายกองอยู่ที่พื้นบ้าน จึงเดินขึ้นไปตรวจที่ชั้น 2 ของบ้าน พบว่ามีสายไฟสีดำความยาวประมาณ 1 เมตร ห้อยอยู่กับราวระเบียงบ้าน และยังพบรอยเลือดหยดอยู่ที่บนพื้น ที่ห้องน้ำพบชิ้นส่วนเตารีดตกอยู่
ภายในห้องนอนซึ่งอยู่ติดกับห้องน้ำ พบศพ น.ส.ณพัฐอร แก่นทรัพย์ อายุ 47 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของ นายอนุพงษ์ นอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้น ที่บริเวณคอมีเสื้อพันไว้ ชันสูตรเบื้องต้น พบว่าที่ลำคอมีรอยถูกสายไฟรัดจนเป็นรอยเขียวช้ำ
สอบถาม นายอนุพงษ์ แก่นทรัพย์ หลานชายที่อยู่ชั้นล่าง เจ้าตัวให้การวกวน ตามร่างกายพบรอยขีดข่วน ที่ศีรษะมีรอยปูดบวม ที่ลิ้นมีรอยถูกกัดจนลิ้นแหว่ง จึงให้ตำรวจควบคุมตัวไว้
ทั้งนี้ ระหว่างตรวจสอบ น.ส.พร (นามสมมติ) พี่สาวผู้ตาย เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมให้ข้อมูลว่าเวลาประมาณ 00.39 น. ตนได้รับข้อความจากไลน์ของน้องสาวว่า "ไอ้ไนท์จะฆ่าหนู" เมื่อรู้จึงรีบติดต่อไปยัง น.ส.ลำแพน ที่เป็นญาติกัน ซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เพื่อให้มาดูที่บ้าน แต่เพราะค่ำแล้วจึงไม่ได้เข้าไปในบ้าน กระทั่งตอนเช้ารีบมาดู ก็พบว่า นายอนุพงษ์ นอนอยู่ในบ้านชั้นล่าง และเมื่อขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ก็พบว่าน้องสาวนอนเสียชีวิต จึงโทรบอกตน พร้อมกับแจ้งตำรวจ
...
น.ส.พร ยังบอกอีกว่า นายอนุพงษ์ เดินทางมาพักที่บ้านที่เกิดเหตุโดยอ้างว่าจะมาหางานทำที่นครปฐม และจะมาขอพักที่บ้านของผู้ตาย 3-4 วัน แล้วจะกลับบ้านที่กาญจนบุรี ซึ่งตนก็ระแวงเพราะเขามีประวัติเสพยา มีอาการหลอน และเคยเข้ารับการบำบัดที่โรงพยาบาลใน จ.กาญจนบุรี แต่ก็ไม่เลิก
ด้าน พ.ต.อ.จุลภณ มีชำนาญ ผกก.สภ.โพธ์แก้ว เผยว่า ขณะนี้ให้ชุดสืบสวนออกตรวจสอบกล้องจากวงจรปิดแล้ว ไม่พบว่ามีใครเข้ามาที่บ้านหลังนี้ ดังนั้นจึงมีกันอยู่แค่ 2 คน ล่าสุดจากการสอบสวน นายอนุพงษ์รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่า โดยก่อนฆ่าได้เสพยาบ้าไปจนหลอน เข้าไปขอเงิน ผู้ตายไม่ให้เลยโมโห จึงต่อสู้กัน โดยนายอนุพงษ์ ถูกของแข็งฟาดเข้าที่ศีรษะหลายครั้ง ก่อนอีกฝ่ายเสียหลักล้ม จึงถูกรัดคอด้วยสายเตารีดจนเสียชีวิต จากนั้นจึงใช้ผ้าคลุม
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายอนุพงษ์ ไปตรวจสารเสพติดที่ รพ.สามพราน พบว่าเป็นสีม่วง เอกซเรย์ที่ศีรษะพบว่ากะโหลกร้าว ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวใกล้ชิด พร้อมตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา