หลานชายแท้ๆ ใช้หินทุบย่าพิการเสียชีวิต อุ้มร่างล้างน้ำอำพรางว่าล้มตาย แต่บาดแผลฟ้อง ตำรวจรวบสอบปากคำ สารภาพทำไปเพราะหงุดหงิด เก็บขี้-เยี่ยวทุกวัน แถมถูกบ่นด่า
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระยืน ได้รับแจ้งว่ามีคนตายที่บ้านภายใน หมู่ 1 ต.ขามป้อม อ.พระยืน จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งพนักงานสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ สายสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน สภ.พระยืน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอีกหลายนายได้ไปตรวจที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว พบเป็นบ้านไม้สองชั้น หน้าบ้านต่อระเบียงยื่นออกมา พบร่างของ น.ส.บุญมา สะตะ อายุ 87 ปี เจ้าของบ้านนอนเสียชีวิตอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ในบ้าน สภาพศพที่หน้าผาก แก้มซ้าย มีบาดแผลคล้ายของแข็งบาดเป็นแผลลึก เบ้าตาเขียวช้ำ จึงสอบถาม นายสิงหา อนุชาสิริ อายุ 49 ปี หลานชาย ซึ่งนั่งอยู่ในบ้าน เบื้องต้นนายสิงหา บอกว่า ตนไปทำธุระกลับเข้าบ้านมาในช่วงค่ำ ก็พบย่านอนคว่ำหน้าในห้องน้ำ คาดว่าย่าจะล้มหัวฟาดพื้น จึงรีบล้างตัวย่าแล้วอุ้มย่ามานอนห่มผ้าที่แคร่ดังกล่าวแต่ย่าไม่ตื่น จึงให้ชาวบ้านแจ้งตำรวจ เพราะเชื่อว่าย่าล้มในห้องน้ำ หัวฟาดพื้นตาย
...
พ.ต.อ.ชลิต มรกตศรีวรรณ ผกก.สภ.พระยืน กล่าวว่า จากการร่วมกับแพทย์ตรวจชันสูตรบาดแผลที่หน้าผากที่แก้มของย่าแล้ว เชื่อว่าไม่ใช่บาดแผลที่เกิดจากการล้มในห้องน้ำ แต่น่าจะถูกทำร้ายแล้วเสียชีวิต แล้วคนลงมือก่อเหตุก็คือคนใกล้ตัวที่ลงมือฆ่าแล้วอำพรางศพคนตายว่าเป็นการล้มในห้องน้ำตาย และจากการตรวจสอบประวัติและตรวจร่างกายของผู้ต้องหา ไม่พบสารเสพติด และประวัติก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด
แต่จากการสอบถามชาวบ้าน ทราบว่า นายสิงหาเป็นลูกของลูกชายของคนตาย แต่พอนายสิงหาโตเป็นหนุ่ม ไม่ถูกกับพ่อแม่ ทำร้ายพ่อแม่ ไล่พ่อแม่ออกจากบ้าน พ่อแม่ทนไม่ได้จึงออกจากบ้านไปแล้วไม่กลับมาที่บ้านอีก คนตายซึ่งเป็นย่าจึงรับนายสิงหาเป็นบุตรบุญธรรม ยกทรัพย์สินที่ย่ามีให้นายสิงหาหมด และย่าก็ขายที่ดิน ได้เงินมาหลายแสนบาท เอาเงินให้นายสิงหาเอาไว้เลี้ยงดูตัวเอง นายสิงหาก็อาศัยอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุกับย่ามาตลอด
ต่อมา นายสิงหามีภรรยาอยู่กินกันจนมีบุตรด้วยกัน สุดท้ายฝ่ายภรรยาก็พาลูกหนีไป ได้ประมาณ 5 ปีแล้ว ย่าจึงอยู่กับนายสิงหาที่บ้านหลังเกิดเหตุเพียง 2 คน ย่าก็แก่ชรา เดินไม่ได้ ต้องไถไปมาในบ้าน มีนายสิงหาดูแลและหาข้าวให้กินมาหลายปีแล้ว แต่ระยะหลังนายสิงหาทำร้ายย่าบ่อย แต่ไม่รุนแรง ชาวบ้านใกล้เคียงทราบดี แต่ไม่มีใครอยากยุ่ง
กระทั่งเวลา 19.00 น. วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ย่าได้ไถตัวเองไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน บอกว่านายสิงหาตี แต่ไม่นานนายสิงหาก็เดินไปอุ้มเอาย่ากลับบ้าน และในช่วงที่เดินเข้าบ้าน นายสิงหาอุ้มย่าหลบมุมกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในบ้าน เมื่อถึงในบ้านไม่นานก็มีเสียงทุบ 2 ครั้ง แล้วก็มีเสียงย่าร้องด้วยความเจ็บปวดแล้วก็เงียบเสียงไป ต่อมาประมาณ 2 ทุ่มวันเดียวกัน นายสิงหาก็เดินออกมาบอกว่าบ้านว่าย่าล้มในห้องน้ำตายแล้ว ชาวบ้านจึงแจ้งตำรวจดังกล่าว
ผกก.สภ.พระยืน กล่าวต่ออีกว่า หลังทราบรายละเอียดจากชาวบ้าน จึงคุมตัวนายสิงหามาสอบสวน เบื้องต้นให้การปฏิเสธ กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 2 มิ.ย. จึงให้การรับสารภาพว่า หลังจากเมียหนีก็หงุดหงิดอารมณ์เสีย และหงุดหงิดที่ย่าพิการบ่นด่า และหงุดหงิดที่ต้องคอยเก็บขี้เก็บเยี่ยวทุกวัน จึงตบย่าไปหลายครั้ง ย่าหนีออกจากบ้านไป จึงไปอุ้มกลับมาที่บ้าน ย่าก็ยังไม่หยุดด่า จึงใช้ก้อนหินทุบที่ศีรษะที่ใบหน้าย่าไป 2-3 ครั้งจนย่าสิ้นใจ จากนั้นจึงอุ้มร่างย่าเข้าไปล้างทำความสะอาดในห้องน้ำ แล้วเอาร่างย่ามานอนห่มผ้าไว้บนแคร่ จากนั้นจึงไปบอกชาวบ้านว่าย่าล้มในห้องน้ำตายแล้ว
ล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. 2568 พ.ต.อ.ชลิต มรกตศรีวรรณ ผกก.สภ.พระยืน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พระยืน ได้นำตัว นายสิงหา อนุชาสิริ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่าย่าตัวเองตายในบ้านไปชี้จุดเกิดเหตุ โดยหลังให้การรับสารภาพ จึงแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่น และเคลื่อนย้ายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป.
...